ทิ้งถ่อน ประโยชน์ดีๆ สรรพคุณเด่นๆ และข้อมูลงานวิจัย
ทิ้งถ่อน งานวิจัยและสรรพคุณ 23 ข้อ
ชื่อสมุนไพร ทิ้งถ่อน
ชื่ออื่นๆ/ชื่อท้องถิ่น ถ่อน, นมหวา (ภาคกลาง), ส่วน, พญาฉัตรทัน (ภาคเหนือ), ซะบ้อง, แซะบ้อง, เส่บ้อง, ดวะเยกิเด๊าะ (กะเหรี่ยง)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Albizia procera (Roxb.) Benth.
ชื่อสามัญ Sit, White sirit
วงศ์ FABACEAE-MIMOSOIDEAE
ถิ่นกำเนิดทิ้งถ่อน
ทิ้งถ่อน จัดเป็นพืชในวงศ์ ถั่ว FABACEAE วงศ์ ย่อยสีเสียด MIMOSOIDEAE ที่มีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมในภูมิภาคในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาทิเช่นในอินเดีย เมียนมา ไทย ลาว กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย และอินโดนีเซีย จากนั้นจึงได้มีการกระจายพันธุ์ไปยังทางตอนใต้ของจีนและในปาปัวนิวกินีไปจนถึงทางตอนเหนือของออสเตรเลีย นอกจากนี้ยังมีการนำไปปลูกในแอฟริกาและแถบแคริบเบียน อีกด้วย
สำหรับประเทศไทยจะพบได้มากทางภาคกลางบริเวณป่าเบญจพรรณ ป่าโปร่ง ป่าหญ้า และตามป่าลุ่มน้ำ หรือ ในพื้นที่ต่ำที่น้ำท่วมถึงและยังพบทางภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคตะวันออกแต่มักจะขึ้นกระจัดกระจายเป็นกลุ่มแบบห่างๆ ที่มีระดับความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 500-1,000 เมตร
ประโยชน์และสรรพคุณทิ้งถ่อน
- ใช้รักษาน้ำเหลืองเสีย
- แก้เส้นตึง ปวดหลัง ปวดเอว
- แก้โรคผิวหนัง
- แก้โรคตา
- ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ
- ช่วยบำรุงธาตุ
- ช่วยบำรุงร่างกาย
- ช่วยให้เจริญอาหาร
- แก้ลมในกองธาตุ
- แก้ลมป่วง
- แก้ธาตุพิการ
- แก้ลมกษัย
- แก้อาเจียน
- แก้อาการปวดข้อ
- แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ
- ช่วยขับลม
- แก้ท้องร่วง
- แก้บิดมูกเลือด
- แก้ระดูขาวในสตรี
- ใช้แก้โรคผิวหนัง
- ใช้ห้ามเลือด
- แก้แผลพุพอง แผลเรื้อรัง
- ช่วยลดอาการท้องเสีย
ทิ้งถ่อนจัดเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทยชนิดหนึ่ง ดังนี้จึงถูกนำมาใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ มาตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน โดยได้มีการใช้ประโยชน์ ดังนี้
มีการนำใบทิ้งถ่อนอ่อน ยอดทิ้งถ่อนอ่อน ดอกทิ้งถ่อนอ่อน ไปลวก หรือ ต้มใช้รับประทานเป็นผักจิ้มกับน้ำพริก ส่วนเปลือกทิ้งถ่อน ต้นมีนำฝาดจึงมีการนำมาใช้ในการฟองหนังและใช้ในการย้อมผ้า ซึ่งจะให้สีชมพูและส่วนของใบ มีการนำมาเผาไฟผสมกับน้ำใบยาฉุนและน้ำปูนขาว ใช้เป็นยาฉีดฆ่าหนอนและแมลงศัตรูพืช หรือ แมลงริ้น หมัด เห็บ ไร ได้ นอกจากนี้เนื้อไม้ยังมีความเหนียว แข็งแรงทนทาน และตบแต่งชักเงาได้ดี จึงมีการนำทิ้งถ่อน มาใช้ในการก่อสร้างบ้านเรือน ใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ ใช้ใบงานแกะสลัก ทำเครื่องมือ เครื่องใช้ในทางการเกษตรและเครื่องมือเครื่องใช้ในครัวเรือน
รูปแบบและขนาดวิธีใช้
- ใช้บำรุงกำลัง โดยนำแก่นทิ้งถ่อนมาต้มกับน้ำดื่ม
- ใช้แก้น้ำเหลืองเสีย โดยใช้รากทิ้งถ่อนต้มกับน้ำดื่ม
- ใช้แก้อาการปวดหลัง ปวดเอว แก้เส้นตึง เส้นท้องตึง โดยนำรากและแก่นทิ้งถ่อน ต้มกับน้ำดื่ม
- ใช้บำรุงร่างกาย ปรับสภาพร่างกาย ปรับระบบการย่อยอาหารและระบบขับถ่าย ใช้คลายความเครียด ทำให้นอนหลับสนิท โดยนำเม็ดข่อย ต้นแห้วหมู เหง้ากระชาย เปลือกทิ้งถ่อน เถาบอระเพ็ด มาต้มรวมกันดื่ม
- ใช้แก้แผลพุพอง แผลเรื้อรัง โดยนำใบสดมาตำพอกบริเวณที่เป็น ใช้ห้ามเลือด ชะล้างบาดแผล โดยนำเปลือกต้นทิ้งถ่อนมาตำพอกบริเวณที่เป็น ร่วมกับใช้น้ำต้มเปลือกรากล้างแผลบ่อยๆ ใช้แก้โรคผิวหนังต่างๆ โดยนำเปลือกรากตำให้แหลกผสมเหล้า ทาบริเวณที่เป็น
ลักษณะทั่วไปของทิ้งถ่อน
ทิ้งถ่อน จัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางที่มีความสูง 20-30 เมตร ทรงพุ่มโปร่ง มักแตกกิ่งก้านในระดับต่ำ ลำต้นปลาตรง หรือ อาจคดเล็กน้อย เปลือกต้นเป็นสีเทาถึงสีน้ำตาลและมีรอยด่างเป็นสีน้ำตาลกระจายทั่วไป ตามกิ่งอ่อนและยอดอ่อนมีขนปกคลุมเล็กน้อย
ใบทิ้งถ่อน เป็นใบประกอบแบบขนนกสองชั้น โดยจะออกเรียงสลับกันบนก้านใบและมีช่อใบย่อยยาว 20-40 เซนติเมตร บริเวณโคนก้านของช่อใบจะมีต่อมขนาดใหญ่ เป็นรูปร่างกลมนูน ส่วนก้านใบมีขนปกคลุมเล็กน้อย และใน 1 ช่อ ใบจะมีใบย่อย 5-12 คู่ ใบย่อยมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน หรือ รูปไข่กลับมีขนาดกว้าง 0.75-2.5 เซนติเมตร และยาว 2-6 เซนติเมตร โคนใบมนเบี้ยว ปลายใบมน หรือ เว้าเล็กน้อย ขอบใบเรียบ แผ่นใบมีสีเขียวและมีขนอ่อนๆ ขึ้นปกคลุมทั้งสองด้านและก้านใบย่อยยาว 0.5-1 มิลลิเมตร
ดอกทิ้งถ่อน ออกเป็นช่อโดยจะออกเป็นกระจุกแน่น บริเวณซอกใบและปลายกิ่ง ซึ่งช่อดอกทิ้งถ่อน จะเกิดเป็นกลุ่มบนก้านช่อดอกที่มีความยาวประมาณ 1-2 เซนติเมตร โดยจะออกกลุ่มละ 2-5 ช่อ และในแต่ละช่อดอกจะมีดอกย่อย 15-25 ดอก ดอกย่อยมีสีขาวโดยจะมีกลีบดอก 5 กลีบ มีเกสรสีขาวแกมสีเหลืองอ่อน ผิวเรียบติดกันเป็นหลอดยาว 4-5 มิลลิเมตร ส่วนปลายแยกเป็นแฉก 5 แฉก มีลักษณะเป็นรูปไข่ปลายแหลมยาว 1.5-2 มิลลิเมตร ส่วนปลายกลีบดอกจะมีขนเล็กๆ ดอกย่อยจะมีเกสรเพศผู้จำนวนมาก สำหรับกลีบเลี้ยง จะมี 5 กลีบติดกันเป็นรูปถ้วยสีเขียว ผิวเรียบ ยาว 2-3 มิลลิเมตร ซึ่งขอบถ้วยจะแยกเป็นแฉก 5 แฉก ลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยมยาว 0.8-1 มิลลิเมตร
ผลทิ้งถ่อน ออกเป็นฝักลักษณะแบน มีขนาดกว้าง 2-3 เซนติเมตร ยาว 10-20 เซนติเมตร ขอบฝักเรียบฝักมักคอดตรงกลางเล็กน้อย มีปุ่มนูนๆ ที่มีเมล็ดอยู่ด้านใน ฝักมีสีเขียวเมื่อแห้งแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ภายในฝักมีเมล็ด 6-12 เมล็ด โดยเมล็ด มีลักษณะแบนรีสีน้ำตาล มีขนาดกว้าง 4 มิลลิเมตร ยาว 6-7 มิลลิเมตร
การขยายพันธุ์ทิ้งถ่อน
ทิ้งถ่อน สามารถขยายพันธุ์ได้โดยการใช้เมล็ด การตอนกิ่ง และการปักชำ แต่วิธีที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน คือ การเพาะเมล็ด เนื่องจากจะได้ลำต้นที่สูงใหญ่รากมีความแข็งแรงไม่ล้ม หรือ หักโค่นง่าย สำหรับวิธีการเพาะเมล็ดและการปลูกทิ้งถ่อนนั้น สามารถทำได้เช่นเดียวกันกับไม้ยืนต้นในวงศ์ถั่ว (FABACEAE) ชนิดอื่นๆ เช่น กระถิน และกระถินณรงค์ ตามที่ได้กล่าวมาแล้วในบทความก่อนหน้านี้
องค์ประกอบทางเคมี
มีรายงานผลการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับองค์ประกอบทางเคมี ของสารสกัดจากส่วนเหนือดินของทิ้งถ่อน ระบุว่า พบสารออกฤทธิ์ที่สำคัญหลายชนิด อาทิเช่น
- สารกลุ่มฟลาโวนอล เช่น quercitrin, isoquercitrin, catechin และ protocatechuic acid
- สารกลุ่มซาโปนินไตรเทอร์พีนอยด์ เช่น echinocystic acid และ machaerinic acid
- สารกลุ่มอัลคาลอยด์ เช่น budmunchiamines A, B และ C
- และยังพบสารประกอบอื่นๆ เช่น percergenin, proceraosides A-D, procera acid และ aldobiuronic acid เป็นต้น
การศึกษาวิจัยทางเภสัชวิทยาของทิ้งถ่อน
มีรายงานผลการศึกษาวิจัยฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของสารสกัดจากส่วนต่างๆ ของทิ้งถ่อนระบุว่ามีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาต่างๆ ดังนี้
มีรายงานผลการศึกษาวิจัยฤทธิ์เป็นพิษต่อเซลล์มะเร็งของสารกลุ่มโตรเทอร์ปีนซาโปนินจากพืชสกุล Albizia พบว่าสาร 3-0-[B-D-xylopyranosy-(1 →2) -@-L-arabinopyranosyl-(1 →>6-2 -acetamido-deoxy-ß-D-glucopyranosyl] echino cystic acid ซึ่งสกัดจากส่วนเปลือกต้นของทิ้งถ่อน (A.procera) มีฤทธิ์เป็นพิษต่อเซลล์มะเร็งตับ (humanhepatoma; HEPG2) ด้วยค่า IC50เท่ากับ 9.13 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร
ส่วนสารสกัดทิ้งถ่อน จากส่วนเหนือดินของทิ้งถ่อน พบว่ามีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ โดยมีการศึกษาวิจัยด้วยวิธี DPPH ว่าสารสกัดดังกล่าวจะเข้าไป จับกับอนุมูลอิสระ โดยมีค่า SC50 เท่ากับ 0.02+0.01 mg/ml และยังมีฤทธิ์กระตุ้นเอนไซม์ไทโรซิเนสในเซลล์เพาะเลี้ยงโดยมีค่าเท่ากับ 89.38+16.71% ที่ความเข้มข้น 1 mg/ml อีกด้วย และสารสกัดจากทุกส่วนของทิ้งถ่อนยังมีฤทธิ์ต้านไวรัส HIV-1 โดยสาร catechin และ protocatchuic acid ที่ได้จากทิ้งถ่อนจะแสดงฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ integrase ของไวรัส HIV-1 อีกทั้งสารสกัดจากเปลือกของทิ้งถ่อนยังมีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด ยับยั้งเอนไซม์ α-amylase และ α-glucosidase ซึ่งเกี่ยวข้องกับการย่อยน้ำตาล จึงสามารถลดน้ำตาลในเลือดได้ ส่วนสารสกัดจากใบทิ้งถ่อน พบว่ามีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียหลายชนิดอาทิเช่น Staphylococcus aureus และ Escherichia coli เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีสารสกัดจากส่วนเหนือดินของทิ้งถ่อนมีฤทธิ์กระตุ้นการสร้างเม็ดสีเมลานินในเซลล์เพาะเลี้ยงเท่ากับ 43.04+9.74% ที่ความเข้มข้น 1 mg/ml อีกด้วย
การศึกษาวิจัยทางพิษวิทยาของทิ้งถ่อน
ไม่มีข้อมูล
ข้อแนะนำและข้อควรระวัง
สำหรับการใช้ทิ้งถ่อน เป็นสมุนไพรนั้น ควรใช้ด้วยความระมัดระวังเช่นเดียวกันกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ โดยควรใช้ในขนาดและปริมาณที่เหมาะสม ที่ได้ระบุไว้ในตำรับตำรายาต่างๆ ไม่ควรใช้ในขนาดที่มากจนเกินไป หรือ ใช้ต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลานานจนเกินไป เพราะอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวได้
เอกสารอ้างอิง ทิ้งถ่อน
- ดร.วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม. หนังสือพจนานุกรมสมุนไพรไทย. ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 5. หน้า322
- เสงี่ยมพงษ์ บุญรอด (2508), ไม้เทศเมืองไทย. กรุงเทพฯ. เกษมบรรณกิจ. หน้า 187.
- คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล. ถ่อน, หนังสือสมุนไพรสวนสิริรุกขชาติ. หน้า 41
- พญ.เพ็ญนภา ทรัพย์เจริญ. หนังสือสมุนไพรในอุทยานแห่งชาติภาคเหนือ. ทิ้งถ่อน, หน้า 121.
- นันทิยา จ้อยชะรัด, สุรศักดิ์ ลิ้มสุวรรณ. ฤทธิ์ทางชีวภาพของพืชสกุล Albizia. วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.ขอนแก่น ปีที่ 41 ฉบับที่ 3.กันยายน-ธันวาคม 2556. หน้า 542-566.
- Sivakrishnan S, Swamivelmanickam M. (2019). A comprehensive review of Albizia procera (Roxb.) Benth. International Journal of Pharmaceutical Sciences and Research, 10(9), 4129-4144.
- Melek, F.R., Miyase, T., Ghaly, N.S. and Nabil, M. (2007).Triterpenoid saponins with N-cetyl sugar from the bark of Albizia procera.Phytochemistry 68: 1261-1266.
- Verma S, et al. (2020). A brief review on phytopharmacological reports on Albizia procera. Asian Journal of Pharmacy and Pharmacology, 6(2), 144-149.