สารสกัดถั่วขาว
สารสกัดถั่วขาว
ชื่อสามัญ White Kidney Bean Extract
ประเภทและข้อแตกต่าง
สารสกัดจากถั่วขาวจัดเป็นสารสกัดจากพืชที่มีความสำคัญ และเป็นที่นิยมในปัจจุบันเนื่องจากมีสารไกลโคโปรตีน (Glycoprotein) ชนิดหนึ่งที่ชื่อ ฟาซิโอลามีน (phaseolamin) ที่ช่วยในการยับยั้งการเปลี่ยนแป้งให้เป็นน้ำตาลในร่างกายจึงสามารถควบคุมน้ำหนักได้ และในปัจจุบันก็มีการนำสารสกัดจากถั่วขาว มาทำเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหลายประเภท อาทิเช่น ท็อปปิ้ง ผลสารสกัดจากถั่วขาว แคปซูลสารสกัดถั่วขาว และเจลลี่จากสารสกัดถั่วขาว เป็นต้น
แหล่งที่พบและแหล่งที่มา
สารสกัดถั่วขาวมีสารที่สำคัญชื่อ ฟาซิโอลามีน (phaseolamine) ซึ่งสามารถพบได้ในธรรมชาติซึ่งสามารถพบได้ในพืชวงศ์ถั่ว (Fabaceae) บางชนิดเช่น ถั่วขาว (White kidney bean) และถั่วแดงหลวง (Kidney bean) ซึ่งในถั่วขาวจะสามารถพบสารชนิดนี้ได้มากกว่าถั่วแดงหลวง และในปัจจุบันจะนิยมสารสกัดถั่วขาวมากกว่าจึงได้ชื่อว่าสารสกัดถั่วขาว
ปริมาณที่ควรได้รับ
สำหรับปริมาณของสารสกัดถั่วขาวที่ควรได้รับใน 1 วันนั้น จากประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหาร และยาของไทยได้กำหนดให้ใช้สารสกัดถั่วขาว จากส่วนของเมล็ดโดยผ่านกรรมวิธีการบดผลหรือสกัดด้วยน้ำ โดยต้องให้มีการใช้สารสกัดจากถั่วขาว ไม่เกิน 1.5 กรัม/วัน (1500mg/วัน) นอกจากนี้ในส่วนของต่างประเทศมีรายงานการศึกษาวิจัยระบุว่าการใช้สารสกัดถั่วขาว 500-3000 มิลลิกรัม/วัน สามารถช่วยควบคุม และลดน้ำหนักได้
ประโยชน์และโทษ
สารสกัดจากถั่วขาวถูกนำมาใช้ประโยชน์ในรูปแบบอาหาร หลายประเภท เช่น นำมาผสมในคุ้กกี้ เค้ก ขนมปัง หรือ แป้งที่ใช้ทำอาหารต่างๆ และยังมีการนำมาใช้เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ซึ่งจะช่วยในเรื่องการขับถ่าย ลดความเสี่ยงต่อภาวะคอเลสเตอรอลสูง และที่เป็นไฮไลท์สำคัญ คือ ช่วยลดพลังงานจากอาหารจำพวกแป้งที่ร่างกายได้รับ เนื่องจากสามารถลดการดูดซึมสารอาหารประเภทแป้งได้ (Starch blocker) จึงส่งผลให้แป้งเปลี่ยนเป็นน้ำตาล และถูกเก็บเป็นไขมันน้อยลง พอเมื่อร่างกายได้รับพลังงานจากแป้งส่วนนั้น ร่างกายจึงเข้าไปดึงไขมันที่สะสมอยู่มาเผาผลาญเปลี่ยนเป็นพลังงานแทนซึ่งจะทำให้ไขมันสะสมในร่างกายของเราลดน้อยลง ซึ่งสารออกฤทธิ์ที่สำคัญที่อยู่ในสารสกัดจากถั่วขาว ที่ช่วยในการลดการดูดซึมของคาร์โบไฮเดรตที่ร่างกายได้รับ คือ สารไกลโคโปรตีนชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า ฟาซิโอลามีน (phaseolamine)
การศึกษาวิจัยที่เกี่ยวข้อง
สารสกัดถั่วขาวมี คุณสมบัติที่โดดเด่น คือ ช่วย ควบคุมน้ำหนักโดยการยับยั้งการย่อยคาร์โบไฮเดรตโดยมีการศึกษาวิจัยทดลองให้ผู้ที่มีน้ำหนักเกินเล็กน้อยประมาณ 5-15 กิโลกรัม จำนวน 60 คน ซึ่งได้ทำการแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 30 คน กลุ่มแรก รับประทานสารสกัดจากถั่วขาว อัดเม็ด น้ำหนัก 445 มิลลิกรัม จำนวน 1 เม็ด ก่อนรับประทาน อาหารเที่ยงที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง เช่น พาสต้า ข้าว มัน ฝรั่ง ขนมปัง ผลไม้สด และกาแฟใส่น้ำตาล ส่วนอีกกลุ่มให้รับประทานยาหลอกแล้วรับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงเช่นกัน โดย ควบคุมอาหารทุกๆ มื้อของผู้ทดสอบทั้ง 2 กลุ่มให้ เหมือนกันต่อเนื่องนาน 30 วัน โดยตรวจติดตามค่าน้ำหนักตัว น้ำหนักไขมัน และส่วนที่ไม่ใช่ไขมันในร่างกาย ความหนาของผิวหนัง ระยะรอบ เอว สะโพก และต้นขา พบว่ากลุ่มตัวอย่างที่ได้รับสารสกัดจากถั่วขาวมีค่าที่ถูกตรวจติดตามทุกค่าลดลงอย่างมี นัยสำคัญ โดยส่วนที่ลดลงเป็นผลมาจากไขมันที่ลดลง เท่านั้น ส่วนของกล้ามเนื้อยังคงเดิม การที่ผู้ทดลอง กลุ่มที่รับประทานสารสกัดจากถั่วขาว มีน้ำหนักลดลง เกิดขึ้นจากกลไกการยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ อัลฟาอะไมเลส โดยสารประกอบโปรตีนชื่อ ฟาซิโอลา มีน ซึ่งปรับสภาพความเป็นกรด-ด่างให้ไม่เหมาะกับการทำงานของเอนไซม์อัลฟาอะไมเลส จากค่าความเป็น กรด-ด่างที่ 6.6–7.6 ให้กลายเป็น 5.5 ส่วนกลไกการทำงานเอนไซม์นี้ ทำหน้าที่ย่อยแป้งให้เป็นน้ำตาล และจะถูกดูดซึมที่ผนังลำไส้เล็ก จากนั้นน้ำตาลจะถูกส่งไปที่ตับเพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงาน ต่อไป น้ำตาลส่วนที่ไม่ถูกใช้จะเปลี่ยนเป็นไกลโคเจน สะสมอยู่ในตับหรือไขมันสะสมตามส่วนต่างๆ ของร่างกายซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้อ้วน แต่หากเอนไซม์อัลฟาอะไมเลสถูก ยับยั้ง แป้งจะไม่ถูกย่อย และดูดซึมที่ผนังลำไส้เล็ก แต่จะคงสภาพเดิมเคลื่อนที่สู่ลำไส้ใหญ่เป็นกากใย และถูก ขับถ่ายจากร่างกายออกไป นอกจากนี้ยังมีการศึกษาวัยอีกชิ้นหนึ่งระบุว่ามีการศึกษาในอาสาสมัครที่เป็นคนอ้วน 50 คน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม โดยวิธีสุ่มตัวอย่าง กลุ่มแรกให้รับประทานสารสกัดถั่วขาว 1,500 มก. วันละ 2 เวลาพร้อมอาหาร ส่วนอีกกลุ่มเป็น กลุ่มเปรียบเทียบไม่ได้รับจากการศึกษาพบว่าสารสกัดจากถั่วขาวสามารถช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือด มีผลต่อการลดน้ำหนัก และสัดส่วนได้
ข้อแนะนำและข้อควรระวัง
ผู้ที่แพ้พืชตระกูลถั่วควรหลีกเลี่ยงการบริโภคสารสกัดถั่วขาว อีกทั้งการบริโภคสารสกัดถั่วขาวก็ไม่ควรรับประทานในปริมาณมากจนเกินไปเพราะอาจทำให้เกิดอาการข้างเคียงได้ เช่น จุกเสียดท้อง ปวดท้อง ท้องเสีย และอาเจียนได้นอกจากนี้การบริโภคสารสกัดถั่วขาวที่ไม่ผ่านการปรุง หรือ สกัดอย่างถูกวิธีอาจทำให้ร่างกายได้รับสารพิษในกลุ่มไฟโตฮีแมกกลูเตนิน ซึ่งสารพิษนี้ทำให้เม็ดเลือดแดงของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเกาะกลุ่มกัน และไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ โดยอาการของผู้ได้รับสารในกลุ่มไฟโตฮีแมกกลูเตนิน คือ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องร่วง ซึ่งอาการจะคงอยู่ 3-4 ชั่วโมง และจะหายได้เอง
เอกสารอ้างอิง สารสกัดจากถั่วขาว
- สารสกัดจากถั่วขาว มหัศจรรย์ ลดอ้วน ชัวร์ หรือมั่วนิ่ม. คอลัมน์ เคล็ด(ไม่) ลับ เพื่อประโยชน์ในการเลือกบริโภค คู่มือโครงการอย่าหลงเชื่ออ่าน ศูนย์วิทยาบริการ สำนักงานคณะกรรมการอาหาร และยา. กระทรวงอาหาร และยา กระทรวงสาธารณสุข.
- ภก. คทา บัณฑิตานุกุล. ลดความอ้วน ลดการเพิ่มออกกำลังกาย. คอลัมน์เรียนรู้จากข่าว. นิตยสารหมอชาวบ้านเล่มที่ 375. กรกฎาคม 2553.
- ลักขณา ร่มเย็น ถั่วขาวพืชมหัศจรรย์บนที่สูง. คอลัมน์เคียงบ่าชาวไร่. หนังสือพิมพ์กสิกร ปีที่ 82 ฉบับที่ 4 กรกฎาคม-สิงหาคม 2552 หน้า 32-34
- ประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหาร และยาเรื่องรายชื่อพืชที่ใช้ได้ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ลงวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ.2560
- สุมินทร์ สมุทคุปติ์. 2549. วิจัย และพัฒนาถั่วบนที่สูง รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ มูลนิธิโครงการหลวง เชียงใหม่ 130 หน้า
- บุศรินทร์ จงเจริญยานนท์. คุณสมบัติเชิงหน้าที่ของถั่วขาว และการประยุกต์แป้งถั่วขาวในผลิตภัณฑ์ขนมอบ. วารสารเทคโนโลยีการอาการ มหาวิทยาลัยสยาม ปีที่ 11. มกราคม-ธันวาคม 2559. หน้า 1-12.
- นส. รินทร์ลภัส พุกจินดา. นส.กฤติกา สิมปิทีป. การพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพจากสารสกัดถั่วขาว ในรูปแบบเยลลี่. โครงการพิเศษหลักสูตร ปริญญาเภสัชศาสตร์บัณฑิต. คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.
- สำนักงานพัฒนาข้อมูลข่าวสารสุขภาพ. สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข. ลองสารสกัดถั่วขาวอย่างไรคุ้มค่ามากที่สุด.
- Celleno, L., Tolaini, M.V., D'Amore, A., Perricone, N.V. and Preuss, H.G. (2007). A dietary supplement containing standardized Phaseolus vulgaris extract influences body composition of overweight men and women. International Journal of Medical Sciences. 4(1): 45–52
- Marshall, J.J. and Lauda, C.M. (1975). Purification and properties of phaseolamin, an inhibitor of alphaamylase, from the kidney bean, Phaseolus vulgaris. The Journal of Biological Chemistry. 250(20): 8030- 8037
- Larive (Thailand) Co Ltd. (2013). Business Opportunities Study in Thai Bakery Sector. [Online]. Available: http:// thailand.nlembassy.org/binaries/content /assets/postenweb/t/thailand/embassyof-the-kingdom -of-the-netherlands-inbangkok/ import/ bakery – final - report_ 2013-7-01.pdf (3 June 2015).
- Mohhmod, R.J. (2010). Kinetics of alphaamylase enzyme in human serum. Journal of Kerbala University. 8(3): 237- 244.
- Sharon, N. and Lis, H. (2004). History of lectins: from hemagglutinins to biological recognition molecules. Glycobiology: Oxford Journals.14(11): 53R-62R.