โด่ไม่รู้ล้ม ประโยชน์ดีๆ สรรพคุณเด่นๆ และข้อมูลงานวิจัย
โด่ไม่รู้ล้ม งานวิจัยและสรรพคุณ 42 ข้อ
ชื่อสมุนไพร โด่ไม่รู้ล้ม
ชื่ออื่นๆ/ชื่อท้องถิ่น หญ้าไก่นกคุ้ม, หญ้าสามสิบสองหาบ, หญ้าไฟนกคุ้ม, หนาดผา (ภาคเหนือ), ขี้ไฟนกคุ่ม (เลย), หญ้าปราบ (ภาคใต้), หนาดมีแคลน (สุราษฎร์ธานี), เคยโป๊, ตะชีโกวะ (กะเหรี่ยง), ก้อมทะ (ลั๊วะ), จ่อเก๋ (ม้ง)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Elephantopus scaber Linn.
ชื่อสามัญ Prickly-Leaved Elephant’s Foot
วงศ์ ASTERACEAE
ถิ่นกำเนิดโด่ไม่รู้ล้ม
โด่ไม่รู้ล้มเป็นพืชที่ถูกเรียกชื่อตามลักษณะของลำต้นที่เมื่อถูกเหยียบย่ำ หรือ ถูกทับก็จะแบนราบลงไปกับพื้นดิน แต่เมื่อเวลาผ่านไปเพียงชั่วครู่ ลำต้นก็จะกลับมาตั้งโด่เหมือนเดิม จึงเป็นที่มาของชื่อโด่ไม่รู้ล้ม ซึ่งพืชนี้ข้อมูลถิ่นกำเนิดที่แท้จริงยังไม่ชัดเจนแต่จัดเป็นพืชในเขตร้อนที่พบได้ในประเทศเขตร้อนทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย ซึ่งในประเทศไทยสามารถพบได้ทั่วทุกภาคของประเทศ และพบมากตามป่าดิบ ป่าสนเขา ป่าเต็งรัง และป่าโปร่งที่มีสภาพของดินเป็นดินร่วนปนทราย
ประโยชน์และสรรพคุณโด่ไม่รู้ล้ม
- เป็นยาขับปัสสาวะ
- แก้ไข้
- แก้ไข้จับสั่น
- ขับน้ำเหลืองเสีย
- แก้บิด
- แก้ท้องเสีย
- แก้ไอ
- แก้วัณโรค
- ช่วยบำรุงหัวใจ
- ขับเหงื่อ
- ขับระดู
- ขับพยาธิตัวกลม
- แก้ปัสสาวะพิการ
- บำรุงความกำหนัด
- แก้กระษัย
- แก้กามโรค
- แก้บวมน้ำ
- แก้ไข้หวัด
- แก้เจ็บคอ
- แก้ตาแดง
- แก้ดีซ่าน
- แก้เลือดกำเดาออกง่าย
- แก้ฝี
- แก้แผลมีหนอง
- แก้แผลงู แมลงมีพิษกัดต่อย
- แก้อักเสบ
- แก้แผลในกระเพาะอาหาร
- แก้แผลเปื่อยในปาก
- แก้เหน็บชา
- เป็นยาคุมสำหรับหญิงที่คลอดบุตรใหม่ เป็นยาบำรุง
- บำรุงกำลัง
- แก้ร้อนใน
- แก้กระหายน้ำ
- แก้อาการอ่อนเพลีย
- ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก
- ช่วยลดการเกิดนิ่ว
- ช่วยยังมีฤทธิ์ช่วยบำรุงกำหนัด
- เพิ่มความต้องการทางเพศทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย
- ช่วยฟื้นฟู และบำรุงสมรรถภาพ
- ช่วยลดภาวะอวัยวะเพศแข็งตัวช้า อ่อนตัวเร็ว และหลั่งเร็วในผู้ชาย
- แก้ต่อมทอนซิลอักเสบ
- รักษาโรคผิวหนังต่างๆ
รูปแบบและขนาดวิธีใช้โด่ไม่รู้ล้ม
- แก้เลือดกำเดา ใช้ต้นสด 30-60 กรัม (หรือ ต้นแห้ง หนัก 10-15 กรัม) ต้มกับเนื้อหมูพอประมาณ กินติดต่อกันนาน 4-5 วัน
- แก้ดีซ่าน ใช้ต้นสด 120-240 กรัม ต้มกับเนื้อหมูพอประมาณ กินติดต่อกันนาน 4-5 วัน
- แก้ท้องมาน ใช้ต้นสด 60 กรัม ต้มเอาน้ำดื่ม เช้า-เย็น หรือ ตุ๋นกับเนื้อหมูรับประทาน
- แก้ขัดเบา ใช้ต้นสด15-30 กรัม ต้มเอาน้ำดื่ม
- แก้นิ่ว ใช้ต้นโด่ไม่รู้ล้ม สด 90 กรัม ต้มกับเนื้อหมู 120 กรัม เติมน้ำใส่เกลือเล็กน้อย ต้มเคี่ยว กรองเอาแต่น้ำ แบ่งไว้ดื่ม 4 ครั้ง
- แก้ต่อมทอนซิลอักเสบ แก้เจ็บคอ ใช้ต้นแห้ง 6 กรัม แช่ในน้ำร้อน 300 ซีซี (ประมาณขวดแม่โขง) นาน 30 นาที รินเอาน้ำดื่ม หรือ จะบดเป็นผงปั้นเม็ดไว้รับประทานก็ได้
- แก้ต่อมน้ำเหลืองอักเสบ ใช้ต้นสด 30 กรัม ต้มเอาน้ำดื่ม
- แก้ฝีบวม หรือ ฝีเป็นหนอง ใช้ต้นสด ตำผสมเกลือเล็กน้อย ละลายน้ำส้มสายชูพอข้นๆ พอก
- แก้ฝีฝักบัว ใช้ต้นสด 25 กรัม ใส่น้ำ 1 ขวด และเหล้า 1 ขวด ต้มดื่ม และใช้ต้นสดต้มกับน้ำ เอาน้ำล้างหัวฝีที่แตก
รักษาโรคผิวหนังต่างๆ และใช้ทาแผล โดยใช้ใบสด 2 กำมือ มาเคี่ยวกับน้ำมันมะพร้าว แล้วใช้ทาบริเวณที่เป็น หรือ ใช้ราก และใบ (สด หรือ แห้งก็ได้) 2 กำมือ ต้มดื่มแก้ท้องร่วง แก้กระเพาะเป็นแผล ช่วยขับปัสสาวะ หรือ ใช้อาบในสตรีหลังคลอด ส่วนรากใช้ตำผสมพริกไทย แก้อาการปวดฟัน หรือใช้รากต้มกับน้ำแล้วใช้อบแก้ปวดฟันก็ได้เช่นกัน
ลักษณะทั่วไปของโด่ไม่รู้ล้ม
โด่ไม่รู้ล้ม จัดเป็นพืชล้มลุก ลำต้นสั้น กลม ชี้ตรง สูง 10-30 เซนติเมตร ตามผิวลำต้น มีขนสีขาวตรงละเอียด ห่าง สาก ใบเป็นใบเดี่ยวอยู่บริเวณเหนือเหง้าติดกันเป็นวงกลม เรียงสลับชิดกันอยู่เป็นกระจุก คล้ายกุหลาบซ้อนที่โคนต้น ลักษณะของใบเป็นรูปหอกหัวกลับ แผ่นใบกว้างประมาณ 3-5 เซนติเมตร และยาวประมาณ 8-20 เซนติเมตร ขอบใบหยัก หรือ เป็นจักคล้ายฟันเลื่อยห่างๆ มีเส้นแขนงของใบประมาณ 12-15 คู่ ส่วนของใบที่ค่อนไปทางปลายจะผายกว้าง แล้วสอบเป็นแหลมทู่ๆ ส่วนโคนใบจะสอบแคบจนถึงก้านใบ มีเนื้อใบหนาสาก ผิวใบจะมีขนสากเล็กๆ ขนตรงห่างมีสีขาว และมีขนต่อมห่างอยู่ทั้งสองด้าน โดยท้องใบจะมีขนมากกว่าหลังใบ แผ่นใบมักแผ่ราบไปกับพื้นดิน ก้านใบยาวประมาณ 0.5-2 เซนติเมตร หรือ ไม่มีก้านใบ ดอกช่อแทงออกจากกลางต้น ช่อดอกรูปขอบขนาน มี 4 ดอกย่อย ยาว 8-10 มิลลิเมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 2-3 มิลลิเมตร ดอกย่อยขนาดเล็ก ดอกรูปหลอดสีม่วง หลอดกลีบดอกยาว 3-3.5 มิลลิเมตร เกลี้ยง ปลายกลีบดอกยาว 1.5-2 มิลลิเมตร ไม่มีขน เกสรเพศผู้สีเหลือง มีอับเรณูยาว 2.2-2.3 มิลลิเมตร ปลายแหลม ฐานเป็นติ่งแหลม ก้านชูอับเรณูยาว 1.5-1.7 มิลลิเมตร เกสรเพศเมียมีก้านเกสรยาว 7-8 มิลลิเมตร ยอดเกสรยาว 0.5-0.6 มิลลิเมตร มีขนที่ปลายยอดและสิ้นสุดที่รอยแยก แต่ละช่อย่อยมาอยู่รวมกันเป็นช่อกระจุกกลมที่ปลายก้านดอก บริเวณโคนกระจุกดอกมีใบประดับแข็งรูปสามเหลี่ยม แนบอยู่ 3 ใบ ยาว 1-2 เซนติเมตร กว้าง 0.5-1.5 เซนติเมตร ขอบใบเรียบปลายเรียวแหลม ที่ผิวใบทั้งสองด้านมีขนตรงสีขาว ออกที่ปลายยอดแบบช่อแยกแขนง ก้านช่อดอกมีความยาวได้ถึง 8 เซนติเมตร และมีขนสาดๆ อยู่ทั่วไป ส่วนฐานรองดอกจะแบนและเกลี้ยง มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 0.5-0.7 มิลลิเมตร วงใบประดับเป็นรูปขอบขนาน มี 2 ชั้น สูงราว 7-10 มิลลิเมตร มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2-3 มิลลิเมตร ใบประดับคล้ายรูปหอก ผิวด้านนอกมีขนตรง ส่วนขอบใบมีขนครุย ชั้นนอกเป็นรูปใบหอกยาวประมาณ 4-6 มิลลิเมตร และกว้างประมาณ 0.5-1.5 มิลลิเมตร ปลายแหลม ส่วนชั้นที่ 2 เป็นรูปขอบขนานกว้างประมาณ 1-2 มิลลิเมตร และยาวประมาณ 8-10 มิลลิเมตร ปลายแหลม สีขาว เป็นเส้นตรงแข็ง มี 5 เส้น เรียง 1 ชั้น ยาวประมาณ 5-6 มิลลิเมตร ส่วนผลเป็นผลแห้งและไม่แตก ลักษณะของผลเล็ก และเรียว เป็นรูปกรวยแคบ ผิวด้านนอกผลมีขนหนาแน่น ยาวประมาณ 2.5-3 มิลลิเมตร และกว้างประมาณ 0.4-0.5 มิลลิเมตร ผลไม่มีสัน
การขยายพันธุ์โด่ไม่รู้ล้ม
โด่ไม่รู้ล้ม เป็นพืชล้มลุกที่ทนแล้งได้ดี สามารถขยายพันธุ์ได้หลายวิธี เช่น การเพาะเมล็ด หรือ การแยกต้นแยกหัว ซึ่งสามารถปลูกในแปลง หรือ ปลูกใส่กระถางได้ โดยการปลูกโด่ไม่รู้ล้ม นั้นก็เหมือนกับการปลูกพืชทั่วๆ ไป คือ เตรียมหลุมและรองก้นหลุมใส่ต้นพันธุ์ลงไปกลบดินแล้วรดน้ำพอชุ่ม แต่สภาพดินที่ปลูกควรเป็นดินร่วมปนทราย และควรปลูกกลางแจ้ง เนื่องจากโด่ไม่รู้ล้มเป็นพืชที่ชอบแดดและทนแล้งได้ดี
องค์ประกอบทางเคมี
ในส่วนต่างๆ ของโด่ไม่รู้ล้ม พบ สารกลุ่ม elephantopins และ deoxyelephanpin Crepiside E, cynaropicrin deacyl; cyanaropicrin-3-β-D-glucopyranoside deacyl; dotriacontan-1-ol; elephantopin, 11-13-dihydro-deoxy; elephantopin, 11-13-dihydro; elephantopin deoxy; elephantopin, iso-deoxy; friedelanol, epi; friedelinol, epi; lupeol; stigmasterol; stigmasterol 3-O- β-D-glucoside; triacontan-1-ol; zaluzanin C, gluco; scabertopin
รูปภาพองค์ประกอบทางเคมีของโด่ไม่รู้ล้ม
การศึกษาทางเภสัชวิทยาของโด่ไม่รู้ล้ม
สารสกัดโด่ไม่รู้ล้ม จากส่วนต่างๆ ของมีฤทธิ์ลดไข้ ลดการอักเสบ ลดความดันโลหิต และมีความเป็นพิษต่อเซลล์มะเร็งต่อมลูกหมาก ยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย ยับยั้งเชื้อไวรัส ต้านความเป็นพิษต่อตับ ลดไข้ ลดการอักเสบ ลดความดันโลหิต และยับยั้งการเคลื่อนไหวของลำไส้เล็ก กระตุ้นมดลูก ยับยั้งเอนไซม์ reverse transcriptase, glutamate-oxaloacetate-transaminase และ glutamate-pyruvate-transaminase มีการศึกษาผลของโด่ไม่รู้ล้ม ในหนูเพศผู้ต่อความกำหนัด คุณภาพน้ำอสุจิ อวัยวะเพศเสริม ขนาดและกล้ามเนื้อลึงค์ และสัดส่วนเพศลูก พบว่าสมุนไพรโด่ไม่รู้ล้ม มีฤทธิ์กระตุ้นกำหนัดและทำให้ระดับ testosterone สูงขึ้นในหนูแรท แต่ในขนาดสูงกลับทำให้ระดับ testosterone และเชื้ออสุจิลดลง เพิ่มการเกิด libido เปลี่ยนแปลงค่า osmolality และจำนวนอสุจิของน้ำอสุจิ ลดเปอร์เซ็นต์อสุจิเคลื่อนไหว เพิ่มน้ำหนักอวัยวะเพศเสริม และเพิ่มสัดส่วนเพศลูก (เพศเมีย/เพศผู้)
การศึกษาทางพิษวิทยาของโด่ไม่รู้ล้ม
จากการศึกษาพบว่าน้ำต้มโด่ไม่รู้ล้ม หรือ สารสกัด 50% เอทานอลจากพืชทั้งต้น ไม่มีพิษ เมื่อให้หนูถีบจักรกินแม้จะให้ในขนาดสูงถึง 6.0 กรัม/กิโลกรัม และพบว่าขนาดของสารสกัดทั้งสองชนิดที่ทำให้หนูถีบจักรตายร้อยละ 50 มีค่ามากกว่า 2 กรัม/กิโลกรัม เมื่อฉีดเข้าทางช่องท้อง
สารสกัดรากและใบที่หมักกับเหล้าโรง 40 ดีกรี เมื่อนำมาป้อนหนูทดลองในขนาดความเข้มข้น 2,000 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม เพียงครั้งเดียว แล้วเก็บผลในวันที่ 14 ผลการทดสอบพบว่าหนูไม่แสดงอาการผิดปกติ ส่วนการทดสอบความเป็นพิษแบบระยะสั้น พบว่าไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสําคัญของน้ำหนักตัว น้ำหนักตับ ไต ม้าม หัวใจ adrenal cortex และอัณฑะ รวมทั้งระดับเอนไซม์ BUN creatinine AST และ ALT ของหนูทุกกลุ่ม
ข้อแนะนำและข้อควรระวัง
- สตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทานอาหารเสริม หรือ ยาแผนโบราณที่มีส่วนประกอบจากโด่ไม่รู้ล้ม
- ผู้ที่มีอาการปัสสาวะมากผิดปกติไม่ควรใช้โด่ไม่รู้ล้มเพราะมีสรรพคุณในการขับปัสสาวะ ซึ่งอาจทำให้อาการรุนแรงขึ้น
- ผู้ที่มีภาวะหยางพร่อง (กลัวหนาว, แขนขาเย็น, ไม่กระหายน้ำ, ถ่ายเหลว, ตัวซีด, ง่วงหงาวหาว นอน) ไม่ควรใช้โด่ไม่รู้ล้ม
เอกสารอ้างอิง โด่ไม่รู้ล้ม
- ไพบูลย์ แพงเงิน. สมุนไพรรู้ใช้ไกลโรค (สมุนไพร คู่บ้าน 2).กรุงเทพฯ:มติชน.2556. 272 หน้า.
- ผศ.ดร.วีณา นุกูลการ. โด่ไม่รู้ล้ม. สมุนไพรกับภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ. สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.
- โด่ไม่รู้ล้ม. ฐานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี. (ออนไลน์) เข้าถึงได้จาก http://www.phargen.com2main.php?action=viewpage&pid=143
- โด่ไม่รู้ล้ม. กลุ่มยาแก้อ่อนเพลีย บำรุงกำลัง บำรุงธาตุ. สรรพคุณสมุนไพร. โครงการอนุรักษ์พันธุ์กรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (ออนไลน์) เข้าถึงได้จาก http://www.rspg.or.th/plants_data/herbs/hers_10htm
- โด่ไม่รู้ล้ม. สารานุกรมสมุนไพร เล่ม 1 สมุนไพรสวนสิรีรุกขชาติ 104. ภาควิชาพฤกษศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.