การะวานเทศ ประโยชน์ดีๆ สรรพคุณเด่นๆ และข้อมูลงานวิจัย
กระวานเทศ งานวิจัยและสรรพคุณ 30 ข้อ
ชื่อสมุนไพร กระวานเทศ
ชื่ออื่นๆ/ชื่อท้องถิ่น กระวาน, กระวานแท้, กระวานขาว, ลูกเอ็น, ลูกเอล (ทั่วไป)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Eletteria cardamomum (L.) Maton
ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์
- Amomum cardamomum L.
- Amomum racemosum Lam., illegitimate superfluous name
- Alpinia cardamomum (L.) Roxb.
- Cardamomum officinale Salisb.
- Zingiber cardamomum (L.) Stokes
- Matonia cardamomum (L.) Stephenson & J.M.Churchill
ชื่อสามัญ Cadamom, Small cardamom
วงศ์ ZINGIBERACEAE
ถิ่นกำเนิดกระวานเทศ
กระวานเทศ จัดเป็นพืชในวงศ์ ขิง (ZINGIBERACEAE) ที่มีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมในเขตร้อนของภูมิภาคเอเชียใต้ บริเวณอินเดีย ศรีลังกา และบังกลาเทศ ต่อมาจึงได้มีการแพร่กระจายพันธุ์ไปยังมาเลเซีย และอินโดนีเซีย รวมถึงประเทศต่างๆ ในทวีปแอฟริกา สำหรับในประเทศไทยพบกระวานเทศ การปลูกในบางพื้นที่เช่นใน อำเภอร่อนพิบูลย์ อำเภอลานสกา และอำเภอพรหมคีรี ของจังหวัดนครศรีธรรมราช และในจังหวัดจันทบุรี
ประโยชน์และสรรพคุณกระวานเทศ
- ใช้ขับลม ขับผายลม
- แก้ท้องอืดเฟ้อ
- แก้อาการเกร็งของลำไส้
- ช่วยบำรุงธาตุ
- ช่วยเจริญอาหาร
- ช่วยกระจายโลหิต
- ช่วยขับเสมหะ
- ช่วยขับโลหิต
- แก้ลมในอกให้ปิดธาตุ
- แก้รำมะนาด หรือ โรคปริทันต์ (Periodontal Disease)
- ช่วยกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง
- ช่วยกระตุ้นจิตใจในผู้ที่มีภาวะอ่อนล้า
- แก้เกร็ง
- แก้อาเจียน
- ใช้ฟอกโลหิต
- แก้โลหิตเน่าเสีย
- แก้เสมหะให้ปิดธาตุ
- แก้ลม
- ใช้ขับพยาธิในเนื้อให้ออกทางผิวหนัง
- ใช้แก้ไข้
- แก้ผอมเหลือง
- แก้ไข้อันง่วงเหงา
- แก้ไข้อันเป็นอชินโรคและอชินธาตุ
- รักษาโรคผิวหนัง
- ใช้แก้ลมสันนิบาต
- แก้สันนิบาตลูกนก
- แก้ไข้เพื่อลม
- แก้ไข้เซื่องซึม
- แก้ลมเสมหะให้ปิดธาตุ
- แก้จุกเสียด
กระวานเทศ จัดเป็นเครื่องเทศที่มีความสำคัญมากมาตั้งแต่ในอดีตจนถึงขั้นมีการทำสงครามเครื่องเทศ โดยกองกำลังอังกฤษ ที่หมู่เกาะโมลุกกะของอินโดนีเซียและในปัจจุบันก็ยังเป็นเครื่องเทศที่มีราคาสูงมาก มีราคาต่อหน่วยของน้ำหนักเป็นอันดับสามรองจากหญ้าฝรั่น (Saffron) และวานิลลา (Vanilla) โดยส่วนที่นิยมนำมาใช้ทำเครื่องเทศ คือ ผลและเมล็ดแห้ง โดยนิยมใช้แต่งกลิ่นอาหารต่างๆ เช่น แต่งกลิ่นกาแฟ กลิ่นเค้ก เบเกอรี่ เหล้า เครื่องดื่ม น้ำซุปและน้ำพริกแกง เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการนำกระวานเทศมาใช้แต่กลิ่นสบู่ น้ำหอม ผงซักฟอก รวมถึงนำมาใช้แต่งกลิ่นยาแผนปัจจุบันอีกด้วย ในส่วนของหน่ออ่อนของกระวานเทศ ก็ยังมีการนำมาใช้ประกอบอาหารได้หลายชนิด โดยได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน
นอกจากนี้กระวานเทศ ยังสามารถใช้เป็นส่วนประกอบในพิกัดยาไทย ได้อีกหลายตำรับ เช่น
- พิกัดศรีธาตุ ที่ประกอบด้วย กระวาน ดอกจันทน์ และอบเชย มีสรรพคุณ แก้ธาตุพิการ แก้ลมเสมหะ แก้วิงเวียน บำรุงดวงจิต
- พิกัดตรีทุราวสา ที่ประกอบด้วย ผลกระวาน ผลโหระพาเทศ ผลราชคัด มีสรรพคุณ แก้บิด บำรุงน้ำดี แก้ลม แก้พิษตานขาว
ส่วนในประเทศจีนและอินเดีย มีการใช้กระวานเทศเป็นยาขับลมและรักษาอาการผิดปกติของทางเดินปัสสาวะ อีกทั้งในอังกฤษและอเมริกา ก็มีการใช้กระวานเทศ เป็นยาขับลม แต่งกลิ่นยาและมีการนำผลกระวานเทศมาผสมกับขิง ผงกานพลู และเทียนตากบ ใช้เป็นยาธาตุขับลม แก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ อีกด้วย
รูปแบบและขนาดวิธีใช้
- ใช้บำรุงธาตุ ช่วยเจริญอาหาร ขับลม ขับเสมหะ กระจายโลหิต ขับโลหิต แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ แก้ลำไส้เกร็ง โดยนำผลและเมล็ดกระวานเทศมาใช้ป่นเป็นเครื่องเทศประกอบอาหาร หรือ นำมาชงดื่มแบบชาก็ได้
- ใช้ฟอกโลหิต แก้โลหิตเน่าเสีย แก้ลม แก้เสมหะให้ปิดธาตุ แก้รำมะนาด หรือ โรคปริทันต์ (Periodontal Disease) โดยนำรากกระวานเทศมาต้มน้ำดื่มและกลั้วปาก
- ใช้บำรุงธาตุ แก้ไข้ผอมเหลือง แก้ไข้อันง่วงเหงา ขับเสมหะ แก้ไข้อันเป็นอชินโรค และอชินธาตุ โดยนำเปลือกต้นกระวานเทศ มาต้มกับน้ำดื่ม
- ใช้กระตุ้นจิตใจ กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้จิตใจชุ่มชื่น แก้วิงเวียนศีรษะ แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ โดยนำน้ำมันหอมระเหยจากผลและเมล็ดกระวานเทศ มาสูดดม หรือ ทาถูกบริเวณที่เป็น
ลักษณะทั่วไปของกระวานเทศ
กระวานเทศ จัดเป็นไม้ล้มลุก อายุหลายปีมีเหง้า หรือ หัวใต้ดินและมีลำต้นเทียมโผล่พันออกมาจากพื้นดินโดยทุกส่วนของลำต้นมีกลิ่นหอมและจะมีความสูงประมาณ 1-5 เมตร ในส่วนของลำต้นเทียมจะเกิดจากการซ้อมกันของกาบใบและจะแตกออกหลายต้นรวมกัน จนมีลักษณะเป็นกอ
ใบกระวานเทศ เป็นใบเดี่ยวรูปหอกแกมรูปแถบแคบยาว 15-25 เซนติเมตร ปลายใบแหลมและจะออกแบบเรียงสลับกันเป็น 2 แถว โดยใน 1 ต้นจะมีใบ 10-20 ใบ ผิวใบด้านหลังมีสีเขียวเข้มเป็นมัน ส่วนท้องใบสีจะจางกว่า
ดอกกระวานเทศ ออกเป็นช่อโดยจะชูออกจากเหง้า หรือ บริเวณโคนต้นขึ้นมาเหนือดินคอกเป็นรูปทรงกระบอก มีความยาว15-30 เซนติเมตร (รวมก้านช่อดอก) ใน 1 ช่อดอกจะมีดอกย่อย 1-3 ดอก ลักษณะของดอกย่อยจะมีสีขาว หรือ สีเขียวอ่อน กลีบดอกเป็นหลอดแคบ กลีบบางส่วนของลาเบลลัมจะเป็นสีขาวและประด้วยขีดม่วง
ผลกระวานเทศ เป็นผลสดมีลักษณะยาวรี รูปไข่ หัวท้ายแหลม ปลายผลงอน ผลมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 2 เซนติเมตร ยาว 4 เซนติเมตร ผลสดมีสีขาวนวล เมื่อผลแกและแห้งจะมีสีน้ำตาลเข้ม ด้านในผลมี 3 พู ภายในผลมีเมล็ดสีน้ำตาลอมดำรูปสามเหลี่ยมแบน จำนวนขนาดประมาณ 5 มิลลิเมตร 15-20 เมล็ด โดยผลและเมล็ดกระวานเทศ จะมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ส่วนเมล็ดจะมีรสเผ็ดหอมฉุน
การขยายพันธุ์กระวานเทศ
กระวานเทศ สามารถขยายพันธุ์ได้โดยวิธีหลักๆ 2 วิธี คือ การแยกกอและการเพาะเมล็ด โดยวิธีที่เป็นที่นิยมในปัจจุบันคือ การแยกกอปลูก เนื่องจากเป็นวิธีที่ทำได้ง่ายใช้เวลาไม่นานและมีอัตราการรอดรวมถึงการเจริญเติบโตเร็วกว่าการเพาะกล้าจากเมล็ด สำหรับวิธีการแยกกอกระวานเทศ มาปลูกนั้นสามารถทำได้เช่นเดียวกันกับการแยกกอพืชล้มลุกในวงศ์ ขิง (ZIGIBERACEAE) ชนิดอื่นๆ เช่น ขิง, ข่า, กระชาย, กระวาน ฯลฯ ซึ่งได้กล่าวถึงมาแล้วในบทความก่อนหน้านี้
องค์ประกอบทางเคมี
มีรายงานผลการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับองค์ประกอบทางเคมีของส่วนเหง้า ลำต้น และน้ำมันหอมระเหยจากส่วนผลของกระวานเทศ ระบุว่าพบสารออกฤทธิ์ที่สำคัญหลายชนิดอาทิเช่น สารสกัดเมทานอล จากส่วนเหง้าและลำต้นพบสาร protocatechuic acid, syringic acid, caffeic acid และ 5-O-caffeoylquinic acid เป็นต้น ส่วนสารสกัดจากเอทานอลพบสาร kaempferol, quercetin, rosmarinic acid, ferulic acid, chrysin, galangin และ pinocembrine เป็นต้น
ส่วนน้ำมันหอมระเหยจากส่วนผลและเมล็ดกระวานเทศ จะมีลักษณะเป็นน้ำมันสีเหลืองอ่อน มีองค์ประกอบทางเคมี อาทิเช่น 1,8 cineol, alpha-terpinyl acetate, alpha-pinene, beta-pinene, sabinene, limonene, aipha-terpineol, terpinen-4-ol, linalyl acetate, geranyl acetate, geraniol, linalool, myrcene, menthone, nerolidol, nerol, beta-peta-phellandrene, beta-caryophyllene
การศึกษาวิจัยทางเภสัชวิทยาของกระวานเทศ
มีรายงานการศึกษาวิจัยทางเภสัชวิทยาของสารสกัดจากส่วนผลและเหง้ากระวานเทศ รวมถึงน้ำมันหอมระเหยจากส่วนผลระบุว่ามีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาต่างๆ ดังนี้
มีรายงานการศึกษาวิจัยพบว่าสารสกัดเมทานอลจากส่วนเหง้าและผลกระวานเทศ รวมถึงน้ำมันหอมระเหยจากเหง้าและผลมีฤทธิ์ลดการอักเสบในหนูทดลอง โดยลดการแสดงออกของยีน pro‑inflammatory (NF-κB, TNF-α, IL-6, COX2) และ ROS ในเซลล์ลำไส้และเซลล์ macrophage ภายใต้ LPS stim. (ตัวกระตุ้นภูมิคุ้นกัน) โดยมีค่าเท่ากัน 200-800 µg/mL และสารสกัดเอทานอลจากเหง้าและผลกระวานเทศ ยังแสดงฤทธิ์ต้านเชื้อจุลชีพ โดยมีฤทธิ์ต้านเชื้อ B.subtilis, E.coli, C.albicans, S.aureus, A.tumigatus และ C.albicans ได้ โดยมีค่า MIC 6.25-12.5 mg/mL ส่วนสารสกัดกระวานเทศ จากผลและเมล็ดของกระวานเทศ พบว่ามีคุณสมบัติต้านเชื้อในแบคทีเรียในช่องปาก เช่น เชื้อ A.actinomycetemcomitans, F.nucleatum, P.gingivalis, P.intermedia ได้อีกด้วย
ยังมีรายงานการศึกษาวิจัยและการทดสอบฤทธิ์การยับยั้งการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร พบว่าเมื่อทดลองในหนูทดลองโดยเหนี่ยวนำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารหนู (rat) ด้วย เอทานอล พบว่า สารสกัดเมทานอลจากผลและเมล็ดของกระวานเทศในขนาด 500 มก./กก. ลดการเกิดแผลในกระเพาะอาหารได้ 70% ส่วนสารสกัดปิโตรเลียมอีเทอร์ในขนาด 50 และ 100 มก./กก. ลดการเกิดแผลในกระเพาะอาหารได้ 50% และเมื่อเหนี่ยวนำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารหนู ด้วย ยาแอสไพริน พบว่าสารสกัดปิโตรเลียมอีเทอร์ในขนาด 12.5 มก./กก. สามารถลดการเกิดแผลในกระเพาะอาหารได้ 100% และที่ขนาดมากกว่า 12.5 มก./กก. โดยจะออกฤทธิ์ได้ดีกว่ายามาตรฐาน รานิทิดีนที่ให้ในขนาด 50 มก./กก. และยังมีการศึกษาวิจัยฤทธิ์ลดความวิตกกังวลในแบบจำลอง PTSD ในหนู Wistar ของสารสกัดเมทานอลในขนาด (200-800 mg/kg) ผลกระวานเทศ พบว่าในขนาดสารสกัด 400 mg/kg แสดงฤทธิ์ลดความวิตกกังวลใน หนูทดลองในแบบ open‑field, elevated plus‑maze และ rotarod tests (P < 0.05)
นอกจากนี้ยังมีรายงานการศึกษาทางคลินิกแบบปกปิดสองทาง โดยมีการสุ่มและมียาหลอกเป็นกลุ่มควบคุม (double-blind randomized placebo controlled clinical trial) ในผู้ป่วยโรคไขมันพอกตับ ที่ไม่ได้เกิดจากแอลกอฮอล์และมีภาวะอ้วน (ค่าดัชนีมวลกาย 25-35 กก./ตร.ม.) จำนวน 87 คน โดยสุ่มแยกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 จำนวน 43 คน รับประทานแคปซูลผงเมล็ดกระวานเขียว (green cardamom; Elettaria cardamomum) ในขนาด 500 มก. ครั้งละ 2 แคปซูล วันละ 3 ครั้ง พร้อมมื้ออาหารและกลุ่มที่ 2 จำนวน 44 คน รับประทานยาหลอก ซึ่งได้ทำการศึกษาเป็นเวลานาน 3 เดือน พบว่ากลุ่มที่ได้รับผงกระวาน มีระดับฮอร์โมน irisin คอเลสเตอรอลชนิด HDL และค่าความไวต่ออินซูลิน (Quantitative insulin sensitivity check index; QUICKI) เพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่ระดับอินซูลิน ไตรกลีเซอไรด์ คอเลสเตอรอลชนิด LDL และค่าความดื้อต่ออินซูลิน (Homeostasis model assessment-insulin resistance; HOMA-IR) ลดลง รวมถึงสามารถลดระดับไขมันสะสมในตับได้อย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ได้รับยาหลอก อีกทั้งยังไม่พบผลของกระวานต่อระดับน้ำตาล คอเลสเตอรอลรวมและค่าดัชนีมวลกายของผู้ป่วย จากผลการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่ากระวานสามารถช่วยปรับปรุงค่าไขมันสะสมในตับ ดัชนีน้ำตาลและไขมันในเลือด และระดับฮอร์โมน irisin ในผู้ป่วยที่มีภาวะอ้วนได้
การศึกษาวิจัยทางพิษวิทยาของกระวานเทศ
มีรายงานผลการศึกษาวิจัยทางพิษวิทยาของสารสกัดเอทานอลจากเมล็ดของกระวานเทศระบุว่า เมื่อให้หนูทดลองได้รับสารสกัดเอทานอลของเมล็ดกระวานเทศ ทางปากในขนาด 0.3 มก./กก. เป็นเวลา 7 วัน พบว่าเริ่มเกิดอาการพิษ คือ ทำให้หนูมีน้ำหนักตัวลดลง
ข้อแนะนำและข้อควรระวัง
สำหรับการใช้กระวานเทศเป็นสมุนไพรเพื่อบำบัดรักษาโรคต่างๆ นั้น ควรระมัดระวังในการใช้เช่นเดียวกันกับการใช้สมุนไพรชนิดอื่นๆ โดยควรใช้ในขนาดและปริมาณที่เหมาะสม ตามที่ได้ระบุไว้ในตำรับตำรายาต่างๆ ไม่ควรใช้ในปริมาณที่มากจนเกินไป หรือ ใช้ต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลานานจนเกินไป เพราะอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวได้
เอกสารอ้างอิง กระวานเทศ
- สมใจ นครชัย, ยุวดี วงษ์กระจ่าง, ปราณี ใจอาจ. พิสมัย ทิพย์ธนทรัพย์, ปัญญา เต็มเจริญ. พิษวิทยาเมล็ดกระวานไทย, วารสารสมุนไพร ๑๙๙๕๒(๑) :๗-๑
- ณรงค์ โทณานนท์. 2538. กระวาน. พิมพ์ครั้งที่ 1.T.P.PRINT CO., LTD. กรุงเทพฯ. 48 หน้า.
- ภัสรา ชวประดิษฐ์, เฉลิมเกียรติ โภคาวัฒนา และปราณี บุญปาน. 2545. เครื่องเทศ: คู่มือ พืชสมุนไพร และเครื่องเทศ ชุดที่ 4. กอง ส่งเสริมพืชสวน กรมส่งเสริมการเกษตร, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, กรุงเทพฯ. 39 หน้า,
- อรุณรัตน์ ทองคำ. (2563, สิงหาคม), กระวาน สมุนไพรมากคุณค่า. สารนครศรีธรรมราช, 50(8), 94-97.
- ผลของกระวานเขียวต่อระดับฮอร์โมน irsin ดัชนี. น้ำตาลและไขมันในผู้ป่วยไขมันพอกตับที่ไม่ได้เกิดจากแอลกอฮอลล์. ข่าวความเคลื่อนไหวสมุนไพร. สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.
- ฐานข้อมูลเครื่องยาไทย คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี กระวานเทศ, (ออนไลน์), 2025, แหล่งที่มา https://phar.ubu.ac.th/herb-DetailThaicrudedrug/10
- Sreedharan S, Lekshmi M, Vishnu KS, et al. Phenolic compounds and antioxidant activity of Elettaria cardamomum (L.) Maton: In vitro and in silico perspectives. Nutrients. 2023;15(13):2965.
- Ravindran R, Rathinasamy SD, Muralidharan P. Evaluation of anxiolytic activity of Elettaria cardamomum (L.) Maton in posttraumatic stress disorder model in rats. Planta Med. 2016;82(3):236-244.
- Rao BRR, Kaul PN, Syamasundar KV, Ramesh S. Chemical profiles of essential oils of Indian and Guatemalan cardamoms. J Essent Oil Res. 2000;12(5): 491-498.
- Sharma A, Yadav KN, Srivastava M, et al. Antibacterial and anti-inflammatory potential of Elettaria cardamomum against periodontal pathogens: An in vitro study. J Herb Med. 2020;21:100337.
- Ashokkumar K, Murugan M, Dhanya MK, et al. Pharmacognostic, phytochemical and pharmacological properties of Elettaria cardamomum (L.) Maton -A review. J Ethnopharmacol. 2020;246:112244.
- Sowmya PRR, Narendhirakannan RT. Pharmacological and nutritional effects of Elettaria cardamomum: A review. J Pharm Res Int. 2023;35(6):33-42.
- Shah G, Shri R, Panchal V, et al. Scientific basis for the therapeutic use of Elettaria cardamomum (small cardamom) in gastrointestinal disorders. Phytother Res. 2011;25(4):531-536.
- Abdelaziz DH, Ali SA. The potential role of cardamom in modulating cyclophosphamide-induced toxicity and tumor growth in Ehrlich solid tumor-bearing mice. BMC Complement Med Ther. 2021;21:133.
- Baskaran K, Krishnan V, Kumar MS, et al. A review on Elettaria cardamomum (L.) Maton-its phytochemistry and pharmacological activity. Asian J Pharm Clin Res. 2020;13(1):8-13.
- Khan MA, Kumar V, Ahmad A, et al. Antidiarrheal and antispasmodic activities of cardamom essential oil via dual blockade of muscarinic receptors and calcium channels. Molecules. 2021;26(9):2546.