งิ้วป่าดอกขาว ประโยชน์ดีๆ สรรพคุณเด่นๆ และข้อมูลงานวิจัย
งิ้วป่าดอกขาว งานวิจัยและสรรพคุณ 15ข้อ
ชื่อสมุนไพร งิ้วป่าดอกขาว
ชื่ออื่นๆ/ขื่อท้องถิ่น งิ้วป่า (ภาคใต้),ประจวบคีรีขันธ์) , นุ่นป่า , ง้าวป่า (ภาคกลาง) , งิ้วดอกขาว , งิ้วผา , ไกร (ภาคเหนือ), หมากงิ้วป่า (ภาคอีสาน)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Bombax anceps Pierre.
ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Bombax anceps Pierre. var. anceps
ชื่อสามัญ Cotton tree, Bombax
วงศ์ BOMBACOIDEAE
ถิ่นกำเนินงิ้วป่าดอกขาว
งิ้วป่าดอกขาวเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนของทวีปเอเชีย ตั้งแต่จีนตอนใต้ เอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีเขตการกระจายพันธุ์บริเวณทางตอนใต้ของจีน อินเดีย บังคลาเทศ พม่า เวียดนาม ลาว กัมพูชา มาเลเซีย เป็นต้น โดยจะพบได้ตามป่าเบญจพรรณป่าผลัดใบ ป่าเต็งรัง และบริเวณเขตหินปูนรวมถึงตามที่เปิดเชิงเขาที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 400-1000 เมตร สำหรับในประเทศไทยมับจะพบตามภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคตะวันตก
ประโยชน์และสรรพคุณงิ้วป่าดอกขาว
- แก้ฟกช้ำ
- แก้ต่อมทอนซิลอักเสบ
- ช่วยขับน้ำเหลืองเสีย
- ช่วยบำรุงกำลัง
- ช่วยกระตุ้นความต้องการทางเพศ
- ช่วยห้ามเลือดที่ตกภายใน
- แก้ท้องร่วง
- แก้บิด
- แก้ระดูมามากกว่าปกติ
- แก้พิษไข้
- รักษาแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก
- แก้ปวด
- แก้คัน
- แก้พิษงู
- แก้อาหารเป็นพิษ
ลักษณะทั่วไปงิ้วป่าดอกขาว
งิ้วป่าดอกขาวจัดเป็นไม้ยืนต้นเนื้ออ่อนผลัดใบ สูงได้ถึง 30 เมตร ลำต้นเปลาตรง เปลือกต้นสีเทามีความด้ามแข็งตามลำต้นและกิ่งก้านมาก โดยเฉพาะต้นอ้อนและจะลดลงเมื่อโตขึ้น ส่วนเปลือกต้นด้านในมีสีขาวและมีริ้วสีชมพูตามยาวมีกระพี้สีขาว เมื่อต้นยังเล็กเรือนยอดจะเป็นชั้นๆ แต่เมื่อโตเต็มที่เรือนยอดด้านบนจะแบน ใบเป็นใบประกอบแบบนิ้วมือ ออกบริเวณปลายกิ่งโดยจะเรียงเวียนสลับมีใบย่อย 5-8 ใบ แผ่นใบย่อยเป็นรูปไข่กลับหรือรูปใบหอกกลับ ขนาด 4-7 x 12-16 ซม. ใบเรียวแหลมหรือเป็นติ่งแหลม โคนสอบเป็นรูปลิ่ม ขอบใบเรียบ ผิวเกลี้ยงทั้งสองด้านใบด้านบนสีเขียวเข้มเป็นมัน ส่วนด้านล่างมีสีเขียวนวล และมีก้านใบยาว 10-17 ซม. ดอกเป็นดอกเดี่ยวออกกระจายทั่วเรือนยอดที่กำลังผลัดใบ มีขนาด 6.5-8 เซนติเมตร โดยจะออกเป็นกลุ่ม 2-4 ดอก กลีบเลี้ยงเป็นแบบโคนเชื่อมติดกันเป็นรูประฆัง มี 2-4 พู มีสีเขียวสดเชื่อมติดกันบนฐานดอกที่แข็ง ส่วนกลีบดอกมี 5 กลีบ สีขาวครีมแกมสีม่วงและมีกลีบดอกโค้งงอไปด้านหลัง มีขนละเอียดด้านนอก เกสรตัวเพศผู้มีเป็นจำนวนมาก ผลรูปทรงกล้วย ด้านในมีปุยสีขาวห่อหุ้มเมล็ดขนาด 4-5 x 12-15 ซม.มีพูตามยาว 5 พู ผลดิบสีเขียวผลแก่สีน้ำตาล เนื้อแข็งโค้งงอเล็กน้อยและเมื่อผลแก้จะแตกตามรอยตะเข็บ เมล็ดเป็นรูปทรงกลมแข็งสีดำขนาดเล็ก มีปุยสีขาวห่อหุ้มคล้ายเมล็ดฝ้าย
การขยายพันธุ์งิ้วป่าดอกขาว
งิ้วป่าดอกขาวสามารถขยายพันธุ์ได้โดยการใช้เมล็ด ซึ่งจะมีการขยายพันธุ์ในธรรมชาติเป็นส่วนใหญ่ และเป็นพืชที่ชอบดินร่วมที่ไม่อุ้มน้ำ ชอบแสงแดดจัดตลอดวัน ปัจจุบันยังไม่นิยมนำมาเพาะปลูกไว้ในบริเวณบ้านเรือนและเรือกสวยไร่นา เพราะถือว่าเป็นพันธุ์ไม้ที่ไม่เป็นมงคล แต่ก็ยังมีการไปเก็บส่วนต่างๆ ของงิ้วป่าดอกขาวมาใช้ประโยชน์ต่างๆอยู่
องค์ประกอบทางเคมี
มีผลการศึกษาวิจัยถึงองค์ประกอบทางเคมีของรากงิ้วป่าดอกขาวในต่างประเทศพบว่ามีสารสำคัญอยู่ เช่น Bombaxoin,isohemigossypol2-methyl ether , 3,5,7-trimethoxyflavone , 5,7-dimethoxyflavone ,cholestenone , Gossyrertin
ที่มา : Wikipedia
รูปแบบและขนาดวิธีใช้
ใช้แก้ท้องเสีย แก้บิด โดยใช้เปลือกต้นมาต้มกับน้ำดื่ม ใช้บำรุงกำลังขับปัสสาวะ ทำให้อาเจียน โดยใช้รากมาต้มกับน้ำดื่ม ใช้แก้พิษไข้ แก้ปวด แก้คันโดยใช้ดอกแห้งมาต้มกับน้ำดื่มหรือใช้บดแล้วชงแบบชาก็ได้ ใช้แก้อาหารเป็นพิษ แก้บิดโดยใช้เปลือกต้นผสมกับเปลือกต้นนุ่นต้มกับน้ำดื่ม ใช้แก้ฟกช้ำโดยใช้ใบสดมาตำให้ละเอียดนำมาพอกบริเวณที่เป็น ใช้แก้ทอลซินอักเสบโดยใช้ใบสดมาผสมกับน้ำเล็กน้อยแล้วใช้ทาบริเวณที่เป็น
การศึกษาทางเภสัชวิทยา
มีผลการศึกษาวิจัยทางเภสัชวิทยาของงิ้วป่าดอกขาวของในต่างประเทศอยู่หลายฉบับ ในที่นี้จะของยกมากล่าวถึงเป็นบางฉบับดังนี้ มีผลการศึกษาวิจัยสารสกัดจากลำต้นของงิ้วป่าดอกขาว ด้วย 50% แอลกอฮอล์ พบว่า มีสารองค์ประกอบอยู่ในกลุ่มแทนนินส์ คาร์ดิแอคไกลโคไซด์ และอัลคาลอยด์ รวมถึงสารในกลุ่มอื่นๆอีกหลายชนิด ซึ่งจะมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ (EC50 = 88.97 มก./มล.) มีฤทธิ์ฆ่าเซลล์มะเร็งตับปานกลาง (IC50 = 212.74 ±27 มก./มล.) โดยพบว่าสามารถชักนำการตายของเซลล์มะเร็งตับแบบอะพอพโทซิต่ำ เมื่อเซลล์ได้รับสารสกัดนาน 1 วัน มีฤทธิ์ในการต้านเชื้อแบคทีเรีย S. aureus ที่ทำให้เกิดโรคแผลฝีหนองที่ความเข้มข้น 12.5 มก./มล. และมีฤทธิ์ในการต้านเชื้อไวรัสโรคเริม Herpes simplex virus type 1 (IC50 = 95.47 มก./มล.) ไม่มีฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ แต่มีฤทธิ์ต้านการกลายพันธุ์ในภาวะที่มีการทำงานของเอนไซม์ร่วมด้วย ไม่มีฤทธิ์ในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันโดยตรง แต่สามารถเสริมการกระตุ้นการเพิ่มจำนวนของเซลล์ภูมิคุ้มกันชนิดทีเซลล์ได้เป็นต้น
การศึกษาทางพิษวิทยา
ไม่มีข้อมูล
ข้อแนะนำและข้อควรระวัง
ในการใช้งิ้วป่าดอกขาวเพื่อเป็นสมุนไพรในการบำบัดรักษาโรคต่างๆ ตามสรรพคุณทางยาที่ระบุไว้ในตำรายาต่างๆนั้น ควรระมัดระวังในการใช้เพราะยังไม่มีข้อมูลการศึกษาทางพิษวิทยาที่แน่ชัด รวมถึงยังไม่มีขนาด/วิธีการใช้ที่แน่นอน ดังนั้นจึงควรใช้ในปริมาณแต่น้อย และไม่ควรใช้ต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลานานเพราะอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ สำหรับเด็กสตรีมีครรภ์ ผู้ป่วยโรคเรื้อรังรวมถึงผู้ที่ต้องรับประทานยาต่อเนื่องเป็นประจำ หากจะใช้งิ้วป่าดอกขาวเป็นสมุนไพรสำหรับบำบัดรักษาโรคต่างๆ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้เสมอ
เอกสารอ้างอิง
- คู่มือศึกษาพรรณไม้ในป่าภาคเหนือ 2549 ฉบับแก้ไข (หน้า76)
- งิ้วป่า.ฐานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี(ออนไลน์)เข้าถึงได้จาก http://www.phargarden.com/main.php?action=viewpage&pid=30
- งิ้วป่า,มะเดื่อฝรั่ง.สมุนไพรในพื้นที่เขื่อนอุบลรัตน์.โครงการจัดทำฐานข้อมูลพืชสมุนไพรที่สำรวจและวิจัยภายใต้โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี(อพ.สธ.)มหาวิทยาลัยขอนแก่น.(ออนไลน์).เข้าถึงได้จากhttp://www.home.kku.ac.th/orip2/thaiherbs/index.php.
- M. A. Johnson and J. R. Tolbert, Torrey Bot. Soc. 87, 173, (1960)
- V. Seshadri, A. K. Batta, S. Rangaswamy, Indian J. Chem. 11, 825, (1973).