ดาวเรืองฝรั่ง ประโยชน์ดีๆ สรรพคุณเด่นๆ และข้อมูลงานวิจัย
ดาวเรืองฝรั่ง งานวิจัยและสรรพคุณ 17 ข้อ
ชื่อสมุนไพร ดาวเรืองฝรั่ง
ชื่ออื่นๆ/ชื่อท้องถิ่น ดาวเรืองหม้อ(ทั่วไป) จินจว่านจวี๋ กิมจั้วเก๊ก(จีน) Scottish marigold(ยุโรป)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Calendular Officinalis Linn.
ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Caltha officinalis, Carlendula aurantiaca Kotschy ex Boiss., Calendula eriocarpa DC., Carlendula Prolifera Hort., Carlendula hydruntina Lanza, Carlendula x santamariae Font Quer
ชื่อสามัญ Common marigold, English marigold, pot marigold, ruddles
วงศ์ Asteraceae-Compositae
ถิ่นกำเนิดดาวเรืองฝรั่ง
ดาวเรืองฝรั่งเป็นพืชในวงศ์ทานตะวัน (Asteraceae) ที่มีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมใบแถบยุโรปตอนกลางตะวันออก และตอนใต้ทวีปอเมริกาเหนือคาบสมุทรบอลข่านยุโรปตะวันออกและประเทศเยอรมัน ในปัจจุบันได้กระจายพันธุ์ไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก สำหรับในประเทศไทย สามารถพบได้ทุกภาคของประเทศบริเวณที่มีการระบายน้ำได้ดี
ประโยชน์และสรรพคุณดาวเรืองฝรั่ง
- ใช้เป็นยาฟอกเลือด กระจายเลือดลมที่อุดตัน
- แก้ปวดกระเพาะ
- รักษาซีสต์ในมดลูกสตรี
- ช่วยขับกษัยลม
- แก้อุจจาระเป็นเลือด
- ช่วยเจริญอาหาร
- ช่วยขับเหงื่อ
- แก้คลื่นเหียนอาเจียน
- ช่วยขับพยาธิ
- แก้ดีซ่าน
- แก้เส้นเลือดพอง
- ใช้เป็นยาธาตุ
- แก้ไข้
- แก้โรคฝีดาษลิงหรือไข้ทรพิษ
- แก้ขาอักเสบ
- แก้โรคต่อมน้ำเหลืองในเด็ก
- แก้อาการท้องผูก
รูปแบบและขนาดวิธีใช้ดาวเรืองฝรั่ง
ใช้เป็นยาธาตุ ขับเหงื่อ แก้ไข้ โรคฝีดาษลิงหรือไข้ทรพิษ ขับลม ขับพยาธิ ดีซ่าน แก้ตาอักเสบ แก้โรคหัด รักษาอุจจาระเป็นเลือด ช่วยบำรุงผิว สมานผิว โดยใช้ดอกตากแห้ง มาต้มกับน้ำดื่ม ใช้เป็นยาเจริญอาการ ขับเหื่อ ขับพยาธิ แก้คลื่นเหียนอาเจียน แก้ดีซ่าน แก้เส้นเลือดพอง โดยใช้ต้นตากแห้งมาต้มกับน้ำดื่ม ใช้ขับลม แก้กษัยลม โดยใช้รากสด 50-80 กรัม มาต้มในน้ำที่ผสมกับเหล้าอย่างละเท่ากัน แล้วนำมารับประทาน ใช้แก้ปวดกระเพาะเนื่องจากกระเพาะชื้นเย็นแบะพร่องโดยใช้รากดาวเรืองฝรั่งประมาณ 30-50 กรัม นำมาต้มกับน้ำดื่มหรือนำมาดอกกับเหล้ารับประทาน ใช้เป็นยารักษาถ่ายอุจจาระเป็นเลือด โดยใช้ดอกสด 10-15 ดอก มาต้มกับน้ำตาลกรวดรับประทาน ใช้แก้โรคต่อมน้ำเหลืองในเด็กโดยใช้ใบมาตากแห้งและต้มกับน้ำดื่ม
ลักษณะทั่วไปดาวเรืองฝรั่ง
ดาวเรืองฝรั่งจัดเป็นพันธุ์ไม้ล้มลุกหรือไม้พุ่มไม่ผลัดใบ อายุ 1-2 ปี ลำต้นตั้งตรง มีความสูงได้ประมาณ 30-50 เซนติเมตร แตกกิ่งก้านสาขามากที่โคนต้น กิ่งอ่อนมีขนสีเทาอมเหลืองมีขนขึ้นปกคลุมเล็กน้อย ตามกิ่งและก้านจะมีร่องเหลี่ยมเมื่อโตเต็มที่ก้านจะมีสีม่วงแกมแดง
ใบ ออกเป็นใบเดี่ยว ออกแบบสลับลักษณะเป็นรูปรีหรือรูปหอก โคนใบรูปลิ่มขอบใบเป็นคลื่น ปลายใบแหลมมีขนาดยาวประมาณ 2.5-8 ซม. แผ่นใบมีสีเขียวด้านล่างมีสีเขียวอ่อน ไม่มีก้าน ใบอยู่ที่ตรงโคนก้านจะมีขนาดใหญ่เรียงไปหาเล็ก
ดอก ออกเป็นดอกเดี่ยว เป็นวงออกเป็นกระจุก บริเวณปลายต้น 2-4 ดอกมีสีเหลืองอมส้มกลีบดอกมีขนาดเล็ก มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3.3-7.8 ซม. ลักษณะเป็นรูปแกมขอบขนานเรียงซ้อนกันเป็นวงหลายๆ ชั้น ดอกวงนอกเป็นดอกเพศเมียส่วนดอกวงในเป็นดอกเพศผู้ ปลายดอกแยกออกเป็นแฉกๆ กลีบดอกทั้งหมดจะมีขนแข็งติดอยู่ที่โคน บริเวณใต้ดอกมีกลีบเลี้ยงสีเขียวอยู่ 1-2 ชั้น
ผล เป็นผลแห้งรูปกลมแป้นหรือรูปขอบขนานโค้ง ยาวประมาณ 10-12 มม. มีขนเล็กน้อย มีเมล็ดรูปทรงกลมสีน้ำตาล
การขยายพันธุ์ดาวเรืองฝรั่ง
ดาวเรืองฝรั่งสามารถขยายพันธุ์โดยวิธีการใช้เมล็ด โดยนำเมล็ดมาเพาะให้เป็นต้นกล้าแล้วจึงนำไปปลูกต่อไป สำหรับวิธีการเพาะเมล็ดและการปลูกก็สามารถทำได้เช่นเดียวกับไม้ล้มลุกชนิดอื่นๆ ที่ได้กล่าวมาแล้วก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ ดาวเรืองฝรั่งเป็นพืชที่เจริญเติบโตได้ดีในดินที่มีความอุดมสมบูรณ์สามารถระบายน้ำและอากาศได้ดีปลูกได้แม้มีสภาพดินเค็มชอบแสงแดดแบบเต็มวันและมีความต้องการน้ำปานกลางโดยอุณหภูมิที่เหมาะสมในการเพาะปลูกอยู่ที่ประมาณ 15-25 องศาเซลเซียส
องค์ประกอบทางเคมีดาวเรืองฝรั่ง
มีการศึกษาวิจัยองค์ประกอบทางเคมีของดาวเรืองฝรั่งระบุว่าพบสารออกฤทธิ์ที่สำคัญหลายชนิด อาทิเช่น
สารกลุ่ม triterpenoids ได้แก่ a-amyrin, B-amyrin, arnidiol .calenduladiol, calendulaglycoside A, B, C,faradiol, faradiol monoester,friedelin, friedelinol ,lupeol, taraxasterol,
สารกลุ่มฟลาโวนอย (flavonoids) ได้แก่ calendoflaside, calendoflavobioside,isorhamnetin, Kaempferol, manghaslin, Quercetin
สารกลุ่ม Carotenoids ได้แก่ antheraxanthin, auroxanthin 930, a-carotene, B-carotene, carotene flavoxanthin, lutein Tutein-5,6-epoxide, luteoxanthin, lycopene
น้ำมันหอมระเหย (essential oil) สารที่พบในน้ำมันหอมระเหย ได้แก่ a-cadinene,(6-cadinene, y-cadinene, a-cadinol 2, 1,8-cineol,limonene
สารกลุ่ม sterols ได้แก่ campesterol, isofucosterol, B-sitosterol,stigmasterol
สารกลุ่ม (fatty acids) ได้แก่ calendic acid 40, lauric acid, X. linoleic acid, AD, a-linolenic acid, myristic acid,, oleic acid, palmitic acid, stearic acid
การศึกษาทางเภสัชวิทยาดาวเรืองฝรั่ง
มีรายงานการศึกษาวิจัยเกี่ยวกบฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของดาวเรืองฝรั่งเอาไว้ดังนี้
ฤทธิ์ต่อผิวหนังและสมอง มีการศึกษาระบุว่า สารสำคัญที่แยกได้จากส่วนสกัดบิวทานอลของเมล็ดดาวเรืองฝรั่ง (Calendula officinalis L.) คือ 28-O-β-D-glucopyranosyl-oleanolic acid 3-O-β-D–glucopyranosyl (1→3)-β-D-glucopyranosiduronic acid (CS1) และ oleanolic acid 3-O-β-D–glucopyranosyl (1→3)-β-D-glucopyranosiduronic acid (CS2) เมื่อนำไปทดสอบฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาต่างๆ พบว่าสาร CS2 มีฤทธิ์กระตุ้นการสร้างเม็ดสี (melanin biosynthesis) ส่วนสาร CS1 มีฤทธิ์กระตุ้นการสร้าง hyaluronic acid เมื่อทดสอบกับ fibroblast จากผิวหนังของมนุษย์ (NHDF-Ad) นอกจากนี้สาร CS2 ยังสามารถปกป้องและเพิ่มโอกาสการรอดชีวิตของเซลล์ประสาท (neuro-2A) จากการถูกทำลายด้วยไฮโดเจนเปอร์ออกไซด์ (H2O2)
ฤทธิ์สารต้านการอักเสบ และยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง มีการทดสอบสารในกลุ่ม triterpene glycoside 10 ชนิด คือ calendulaglycoside A (1), calendulaglycoside A 6´-O- methyl ester (2), calendulaglycoside A 6´-O-n- butyl ester (3), calendulaglycoside B (4), calendulaglycoside B 6´-O-n- butyl ester (5), calendulaglycoside C (6),calendulaglycoside C 6´-O- methyl ester (7), calendulaglycoside C 6´-O-n- butyl ester (8), calenduloside F 6´-O-n- butyl ester (9) และ calenduloside G 6´-O- methyl ester (10) และสารในกลุ่ม flavonol glycoside 5 ชนิด คือ isorhamnetin 3-O- neohesperidoside (11), isorhamnetin 3-O- 2G-rhamnosylrutinoside (12), isorhamnetin 3-O- rutinoside(13), quercetin 3-O- glucoside (14) และ quercetin 3-O- rutinoside (15) ซึ่งแยกได้จากดอกดาวเรืองฝรั่ง พบว่า สาร 1-9 มีฤทธิ์ต้านการอักเสบในหนูถีบจักรที่ถูกชักนำให้เกิดการอักเสบที่ใบหูด้วย 12-O- tetradecanoyl phorbol-13-acetate (TPA) โดยมีค่า ID50 (50% inhibitory dose) อยู่ระหว่าง 0.05-0.20 มก./หู และสาร 1-10 มีฤทธิ์ต้านการกระตุ้น Epstein-Barr virus early antigen (EBV-EA) จากการชักนำด้วย TPA โดยมีค่า IC50 (50% inhibiotry concentration) อยู่ระหว่าง 471-487 mol ratio/32 pmol TPA และพบว่าสารที่ 9 และ 10 มีความเป็นพิษต่อเซลล์มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งเม็ดเลือดขาว และเซลล์ melanoma
ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ มีการศึกษาผลของสารสกัด 50% เอทานอลจากดอกดาวเรืองฝรั่ง เตรียมโดยการแช่สกัดที่อุณหภูมิ 25 °C เป็นเวลา 5 วัน ในหนูเม้าส์ไร้ขนที่ถูกกระตุ้นให้เกิดภาวะเครียด ออกซิเดชัน ด้วยรังสี UVB โดยแบ่งออกเป็น กลุ่มที่ป้อนสารสกัดขนาด 150, 300 และ 600 มก./กก.ที่ เวลา 18 ซม. และ 30 นาที ก่อนการฉายรังสี เปรียบเทียบผลกับกลุ่มควบคุม พบว่าสารสกัดทุกขนาดมีผลเพิ่มระดับของ glutathione ที่ลดลงเนื่องจากรังสี UVB ได้ โดยกลุ่มที่ได้สารสกัดในขนาด 150 และ 300 มก./กก. มีปริมาณของ glutathione ใกล้เคียงกับกลุ่มควบคุมที่ไม่ได้ถูกฉายรังสีนอกจากนี้สารสกัดยังมีผลเพิ่มระดับของเอนไซม์ matrix metalloproteinases 2 และ 9 (MMP-2, MMP-9) ซึ่งอาจ เป็นประโยชน์ต่อการรักษาแผลและการสร้าง procollagen แสดงว่าสารสกัดจากดอกดาวเรืองฝรั่งมี ฤทธิ์ในการปกป้องผิวจากการทำลายด้วยรังสี UV และอาจกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนของผิวได้
นอกจากนี้ยังมีการศึกษาคุณสมบัติฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของสารสกัดดอกดาวเรืองสายพันธุ์ Calendula arvensis L. และ Calendula officinalis L. ซึ่งสกัดโดยใช้น้ำและ 70% เมทานอลพบว่าสารสกัดโดยใช้น้ำมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระได้ดีกว่าสารสกัดโดยใช้เมทานอล และดอกดาวเรืองสายพันธุ์ Calendula offocinalis L. มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระได้ดีกว่า
นอกจากนี้ยังมีการศึกษาในต่างประเทศที่ระบุว่าดาวเรืองฝรั่งมีฤทธิ์ลดไขมันในเลือด ลดคอเลสเตอรอล ยับยั้งการชัก ต้านบิด ต้านเชื้อรา และต้านไวรัส เป็นต้น
การศึกษาทางพิษวิทยาของดาวเรืองฝรั่ง
มีการการทดสอบพิษเฉียบพลันของสารสกัด เอทานอลจากดอกดาวเรืองฝรั่งไม่ระบุวิธีการสกัด โดยป้อนหนูเม้าส์และหนูแรทด้วยสารสกัด ขนาด 0.625, 1.25, 2.5 และ 5.0 ก./กก. พบว่าไม่ทำให้หนูตายหรือทำให้เกิดพิษ และการทดสอบพิษกึ่งเฉียบพลันโดยป้อนหนูแรทด้วยสารสกัด ขนาด 0.025, 0.25, 0.5 และ 1 ก./กก. เป็นเวลา 30 วันพบว่าไม่ทำให้หนูตาย สารสกัดไม่มีผลต่อพฤติกรรม ค่าทางโลหิตวิทยา และค่าชีวเคมีต่างๆ ในเลือดของหนู ยกเว้นค่า blood urea ลักษณะของอวัยวะภายใน ไม่พบความผิดปกติของสมอง ไต และหัวใจ แต่พบการอักเสบของปอดซึ่งอาจเป็นผลมาจากวิธีการป้อนสารสกัด (oral gavage) และการอักเสบของตับซึ่งสอดคล้องกับค่าเอนไซม์ ALT ที่สูงขึ้น จากผลการทดลองจะเห็นว่าสารสกัด 70% เอทานอลจากดอกดาวเรืองฝรั่ง ไม่ก่อให้เกิดพิษเฉียบพลัน แม้ให้ในขนาดสูงถึง 5 ก./กก. แต่อาจมีผลต่อตับและไตได้ เมื่อให้ในระยะเวลาที่นานขึ้น
ส่วนอีกการศึกษาวิจัยหนึ่งระบุว่าการใช้สารสกัดดอกดาวเรืองฝรั่งขนาด 0.25, 0.5, 1.0 กรัมต่อน้ำหนักสัตว์เป็นกิโลกรัมต่อวัน พบว่า ค่าโลหิตวิทยาระหว่างกลุ่มทดลอง และกลุ่มควบคุมไม่แตกต่างกันการทดลองในหนูเพศผู้ และเพศเมียที่ได้รับสารสกัดดิกดาวเรืองฝรั่งที่สารสกัดด้วย 70% Alcohol/water solution ปริมาณ 500 มิลลิกรัม/กิโลกรัมต่อวัน เป็นเวลา 30 วัน พบว่าไม่มีผลต่อการเพิ่มของน้ำหนักส่วนการทดสอยระคายเคืองต่อผิวหนังของกระต่ายเมื่อได้รับความเข้มข้นที่ 20-100 มิลลิกรัม พบว่า มีประสิทธิภาพสร้างเนื้อเยื่อปิดบาดแผล และไม่เกิดให้ก่อการระคายเคืองต่อผิว และตาขอกระต่ายแต่อย่างใด
ข้อแนะนำและข้อควรระวัง
มีการศึกษาวิจัยข้อควรระมัดระวัง และข้อบ่งชี้ในการทดลองสารสกัดดอกดาวเรืองฝรั่งระบุว่า ผู้ที่แพ้เกสรจำพวกดอกเดซี่ทานตะวันควรหลีกเลี่ยงการใช้ดอกดาวเรืองฝรั่งและสารสกัดดอกดาวเรืองฝรั่ง เพราะอาจทำให้แพ้ได้ โดยมีรายงานว่าโดยตนจำนวน 1,032 คน เมื่อทดสอบสารที่แตกต่างกัน 5 ชนิด ในจำนวน 1,032 คน พบผู้ป่วยที่เกิดอาการแพ้ต่อ 10% calendula tincture คิดเป็น 0.2% ของจำนวนผู้ทดสอบ และจากรายงานการวิจัยทางคลินิกได้สนับสนุนให้ใช้ความเข้มข้นของสารสกัดดอกดาวเรืองฝรั่ง 2%-10% ในกรณีที่ใช้บาดแผลระดับเรื้อรัง รุนแรงของแผลอักเสบ
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลระหว่างสมุนไพรกับยาแผนปัจจุบันระบุว่า ผู้ที่ใช้ 5-fluouracil, Cefotaxime ควรหลีกเลี่ยงการใช้ดาวเรืองฝรั่งและผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารสกัดดาวเรืองฝรั่งเนื่องจากอาจจะเกิดการเพิ่มและเสริมฤทธิ์ของยาซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้
เอกสารอ้างอิง ดาวเรืองฝรั่ง
- ดร.วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม. “ดาวเรืองฝรั่ง”. หนังสือพจนานุกรมสมุนไพรไทย. ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 5. หน้า 287-288.
- ประสิทธิผลในการใช้คาเลนดูลาเจนในกลุ่มตัวอย่างผู้ป่วยที่มีแผลเรื้อรังที่เข้ารับบริการที่โรงพยาบาล ราชพิพัฒน์ สำนักการแพทย์ กทม. รายงานการศึกษา กลุ่มงานวิจัยและคัดกรองศาสตร์ กองการแพทย์ทางเลือก กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข. 25 หน้า
- วิทยา บุญวรพัฒน์. ดาวเรืองฝรั่ง. หนังสือสารานุกรมสมุนไพรไทย-จีน ที่ใช้บ่อยในประเทศไทย. หน้า 224.
- ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของสารอนุพันธุ์กรดโอเลียโนลิกและเมล็ดดอกดาวเรืองฝรั่ง. ข่าวความเคลื่อนไหวสมุนไพรสำนักงานข้อมูลสมุนไพร มหาวิทยาลัยมหิดล.
- เภสัชการหญิงจุไรรัตน์ เกิดดอนแฝก. ดาวเรืองฝรั่ง.หนังสือสมุนไพรลดไขมันในเลือด 140 ชนิด. หน้า 84.
- สารต้านอักเสบและยับยั้งเชื้อเจริญเติบโตในเซลล์มะเร็งจากดอกดาวเรือฝรั่ง (carlendula officinalis). ข่าวความเคลื่อนไหวสมุนไพร สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
- Bone K.A Clinical guide to Blending Liquid Herbs: Herbal Formlations for the Indivudua Patient. 2003;11:50-53.
- Preethi KC R. Wound ealing activity of flower extract of calendula officinalis. J Basic Clin Physiol Pharmacol. 2009;20:73-79.