ส้มโอมือ ประโยชน์ดีๆ สรรพคุณเด่นๆ และข้อมูลงานวิจัย
ส้มโอมือ งานวิจัยและสรรพคุณ 18 ข้อ
ชื่อสมุนไพร ส้มโอมือ
ชื่ออื่นๆ/ชื่อท้องถิ่น ส้มมือ, ส้มนิ้ว (ทั่วไป), ฝอโส่ง, ฝูโส่ (จีน), บาราพิมพู (อินเดีย)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Citrus medica Linn.
ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Citrus medica var., C. balotina Poit. & Turpin, C. tuberosa Mill., Aurantium medicum (L.) M. Gómez
ชื่อสามัญ Fingered citron, Buddha’s hand, Buddha's fingers
วงศ์ RUTACEAE
ถิ่นกำเนิดส้มโอมือ
ส้มโอมือเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนของทวีปเอเชีย ในภูมิภาคเอเชียใต้ เช่น ในอินเดีย ปากีสถาน ศรีลังกา แล้วได้มีการแพร่กระจายไปยังบริเวณเขตร้อนใกล้เคียง เช่นใน บังคลาเทศ พม่า ไทย ลาว กัมพูชา มาเลเซีย จีน ญี่ปุ่น เป็นต้น ปัจจุบันสามารถพบได้ทั่วไปในเขตร้อนต่างๆ ของทวีปเอเชีย สำหรับในประเทศไทยพบได้ทุกภาคของประเทศแต่ส่วนมากจะพบได้มากทางภาคกลาง และภาคใต้ ซึ่งนิยมนำมาปลูกเป็นไม้ประดับ และใช้เป็นส่วนผสมของยาสมุนไพรต่างๆ
ประโยชน์และสรรพคุณส้มโอมือ
- ช่วยบำรุงหัวใจ
- ช่วยกระตุ้นหัวใจ
- ช่วยบำรุงเลือดลม
- ช่วยบำรุงลม
- ช่วยบำรุงตับ
- แก้ลมกองละเอียด กองหยาบ
- แก้เสมหะโลหะ
- ใช้ละลายเสมหะ
- แก้ไอ
- แก้หืดหอบ
- แก้ท้องอืดเฟ้อ
- แก้จุกเสียด แน่นท้อง
- แก้อาหารไม่ย่อย
- แก้ปวดท้อง
- แก้ปวดกระเพาะ
- แก้วิงเวียนศีรษะ
- แก้คลื่นไส้อาเจียน
- ใช้ละลายเสมหะ
รูปแบบและขนาดวิธีใช้
แก้ลมคั่งค้างในกระเพาะอาหาร ขับลม แก้ปวดกระเพาะอาหาร แก้จุดเสียดแน่นเฟ้อใช้ผลสด 12-15 กรัม หรือ ผลแห้ง 6 กรัม แช่ในน้ำร้อน หรือ ชงน้ำรับประทาน แก้คลื่นไส้อาเจียน แก้วิงเวียน แก้ไอ หืดหอบ ใช้ละลายเสมหะ ใช้ผลแห้งครั้งละ 3-10 กรัม หรือ ดอกครั้งละ 3-6 กรัม หรือ รากครั้งละ 10-15 กรัม ผลแห้งครั้งละ 3-10 กรัม ต้มน้ำรับประทาน หรือ เข้ากับตำรับยาอื่น
ส่วนในตำรายาจีนระบุขนาดวิธีใช้ดังนี้
แก้อาการหลอดลมอักเสบเรื้อรัง ไอชื้น ใช้ผลส้มโอมือแห้ง 6 กรัม และปั๊วแห่ 6 กรัม นำมาต้มกับน้ำใส่น้ำตาลเล็กน้อยรับประทานแก้ปวดท้อง ปวดกระเพาะ แก้จุกเสียดแน่นท้อง ลมขึ้นท้องอืด ท้องเฟ้อ ใช้ผลส้มโอมือแห้ง 6 กรัม และหง่วนโอ๊ว 6 กรัม นำมาต้มกับน้ำรับประทาน แก้อาหารไม่ย่อย ใช้ผลส้มโอมือ 5 กรัม, ขิง 5 กรัม, เปลือกมะนาว 5 กรัม, อึ่งไน้ 1 กรัม นำมาต้มกับน้ำรับประทานวันละ 1 ครั้ง
ลักษณะทั่วไปของส้มโอมือ
ส้มโอมือจัดเป็นไม้พุ่มกึ่งไม้ยืนต้นขนาดเล็กมีทรงพุ่ม สูงประมาณ 3-4 เมตร เนื้อไม้แข็ง และเหนียว เปลือกลำต้นเรียบสีน้ำตาล กิ่งอ่อนสีม่วงแดง กิ่งแก่สีเดียงกับลำต้น ตามลำต้น และกิ่งมีหนามสั้นแข็งอยู่ทั่วไป ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ ลักษณะของใบเป็นรูปไข่สีเขียวเข้มหลังใบเรียบ ท้องใบสีเขียวอ่อน ส่วนปลายใบและโคนใบมน ส่วนขอบใบจักเป็นซี่ฟันตื้นๆ ใบมีขนาดกว้างประมาณ 3-5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 8-15 เซนติเมตร ดอกเป็นดอกเดี่ยว หรือ เป็นกระจุกสีขาวโดยจะออกตามซอกใบ และปลายกิ่ง กลีบดอกมี 5 กลีบ ลักษณะหนา และแข็ง มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2-3 เซนติเมตร ซึ่งกลีบดอกด้านในจะเป็นสีขาว ด้านนอกมีสีม่วงแดง หลุดร่วง ผลออกเป็นผลเดียว รูปทรงรีขนาดใหญ่ ปลายผลแยกออกเป็นแฉกงอคล้ายนิ้วมือ ผลมีขนาดยาวประมาณ 10-25 เซนติเมตร ผิวผลขรุขระเป็นมัน มีกลิ่นหอมข้างในผลจะเป็นเหมือนฟองน้ำหนาสีขาว ผลอ่อนเป็นสีเขียว เมื่อสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ไม่มีเนื้อผล และเมล็ด
การขยายพันธุ์ส้มโอมือ
ส้มโอมือสามารถขยายพันธุ์ได้โดย วิธีการตอนกิ่ง และการทาบกิ่ง แต่วิธีที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน คือ การตอนกิ่ง เพราะเป็นวิธีที่สะดวกและให้ผลผลิตเร็วกว่าวิธีอื่นๆ โดยวิธีการตอนกิ่งส้มโอมือ สามารถทำได้เช่นเดียวกันกับการตอนกิ่งไม้ยืนต้นอื่นๆ ที่กล่าวมาแล้วในบทความก่อนหน้านี้ โดยหลังจากได้ต้นพันธุ์จากการตอนกิ่งมาแล้ว ให้นำไปปลูกในหลุมที่เตรียมไว้ โดยให้มีระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 4x4 เมตร ทั้งนี้ส้มโอมือเป็นพืชที่ไม่ชอบแสงแดดจัด และจะเจริญเติบโตได้ดีในดินที่มีอินทรียวัตถุสูง ระบายน้ำได้ดี โดยหลังจากการปลูก 2-3 ปี จึงจะให้ผลครั้งแรก
องค์ประกอบทางเคมี
มีการศึกษาวิจัยในผิวผลส้มโอมือที่มีการนำไปใช้ประโยชน์ต่างๆ พบว่า มีองค์ประกอบทางเคมีที่สำคัญเป็นน้ำมันหอมระเหยที่มีสารต่างๆ เช่น Citropten, Lime ttin และยังพบสาร Hesperidin, Diosmin และ Ascorbic acid อีกด้วย
ที่มา : Wikipedia
การศึกษาทางเภสัชวิทยาของส้มโอมือ
มีการศึกษาทางเภสัชวิทยาในสารสกัดของผลส้มโอมือในสัตว์ทดลอง พบว่ามีฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อเรียบในลำไส้ และลดการบีบตัวของลำไส้ มีฤทธิ์ยับยั้งการเคลื่อนตัวของลำไส้ของสัตว์ทดลองได้ ส่วนน้ำมันหอมระเหย ไม่มีฤทธิ์ดังกล่าว
การศึกษาทางพิษวิทยาของส้มโอมือ
ไม่มีข้อมูล
ข้อแนะนำและข้อควรระวัง
- ในทางการแพทย์แผนจีนมีการะบุถึงข้อควรระวังในการใช้ส้มโอมือว่า ผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอ ไม่ควรรับประทานส้มโอมือ
- ในการใช้ส้มโอมือเพื่อเป็นสมุนไพรสำหรับบำบัดรักษาอาการของโรคต่างๆ นั้น ควรระมัดระวัง เช่นเดียวกันกับการใช้สมุนไพรชนิดอื่นๆ โดยควรใช้ตามขนาดที่ได้ระบุไว้ในตำรับตำรายาต่างๆ ไม่ควรใช้มากจนเกินไป หรือ ใช้ติดต่อกันนานจนเกินไป เพราะอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ สำหรับ เด็ก สตรีมีครรภ์ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง รวมถึงผู้ที่ต้องรับประทานยาต่อเนื่องเป็นประจำ ก่อนจะใช้ส้มโอมือเป็นสมุนไพรสำหรับบำบัดรักษาโรคต่างๆ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้เสมอ
เอกสารอ้างอิง ส้มโอมือ
- วิทยา บุญวรพัฒน์. “ส้มมือ”. หนังสือสารานุกรมสมุนไพรไทย-จีน ที่ใช้บ่อยในประเทศไทย. หน้า 530.
- ชยันต์ พิเชียรสุนทร และ วิเชียร จีรวงศ์. คู่มือเภสัชกรรมแผนไทยเล่ม 1 น้ำกระสายยา. พิมพ์ครั้งที่ 3. กทม. อัมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง. 2556. หน้า 73
- ดร.นิจศิริ เรืองรังษี, ธวัชชัย มังคละคุปต์. “ส้มมือ (Som Mue)”. หนังสือสมุนไพรไทย เล่ม 1. หน้า 283.
- ส้มโอมือ. ฐานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี (ออนไลน์) เข้าถึงได้จาก http://www.phargarden.com/main.php?action=viewpage&pid=119
- ส้มโอมือ. ฐานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี (ออนไลน์) เข้าถึงได้จาก http://www.phargarden.com/main.php?action=viewpage&pid=134