เท้ายายม่อม ประโยชน์ดีๆ สรรพคุณเด่นๆ และข้อมูลงานวิจัย
เท้ายายม่อม งานวิจัยและสรรพคุณ 15ข้อ
ชื่อสมุนไพร เท้ายายม่อม
ชื่ออื่นๆ/ชื่อท้องถิ่น ท้าวยายม่อม , สิงโตดำ (ภาคกลาง),นางนวล (ระยอง) ,บุกรอ (ภาคใต้,ตราด)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Tacca leontopetaloides (L.) Kuntze
ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Tacca abyssinica Hochst. ex Baker, Tacca gaogao Blanco, Chaitaea tacca Sol. ex Seem.
ชื่อสามัญ Tacca, East Indian arrowroot , Polynesian arrowroot , South Sea arrowroot , Thahiti arrowroot
วงศ์ DIOSCOREACEAE
ถิ่นกำเนิดเท้ายายม่อม
สำหรับเท้ายายม่อมคาดว่ามีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แล้วมีการแพร่กระจายพันธุ์ต่อไปตั้งแต่แอฟริกา เอเชีย โอเชียเนียจนถึงเกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก จนเป็นพืชท้องถิ่นในทวีป เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียใต้ แอฟริกา ออสเตรเลียเหนือนิวกินี หมู่เกาะไมโครนีเซีย ซามัว และฟิจิ ส่วนในประเทศไทยสามารถพบได้มากบริเวณภาคตะวันออกและภาคใต้ ส่วนในภาคกลางและภาคตะวันออกจะพบขึ้นกระจายในธรรมชาติ ซึ่งเท้ายายม่อมในประเทศไทยนั้นจะพบตามป่าผลัดใบต่างๆและป่าดิบแล้ง โดยมักจะพบตามบริเวณที่เป็นดินทรายและที่ๆมีร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ขึ้นอยู่
ประโยชน์และสรรพคุณเท้ายายม่อม
- ใช้แก้ไข้
- ช่วยขับเสมหะ
- รักษาริดสีดวงทวาร
- แก้ไส้เลื่อน
- นำมาทำเป็นแป้งใช้ประกอบอาหาร
- ช่วยเจริญอาหารช่วยบำรุงร่างกาย
- ช่วยบำรุงหัวใจ
- แก้อ่อนเพลีย
- ช่วยสมานแผลในกระเพาะอาหาร
- แก้ท้องอืด
- แก้ท้องเสีย
- ใช้ภายนอกโรยแผลเพื่อห้ามเลือด
- ใช้ทาแก้ผดผื่นคัน
- ใช้ลดสิวลดฝ้า ทำให้หน้าขาว
- ทาแก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย พิษผึ้ง พิษแมงกะพรุนไฟ และผดผื่นแพ้ต่างๆ
ลักษณะทั่วไปเท้ายายม่อม
เท้ายายม่อมจัดเป็นไม้ล้มลุกอายุหลายปี มีหัวใต้ดินหรือลำต้นจริงสะสมอาหาร รูปร่างกลมแบน หรือรีกว้างเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 0.5-4 นิ้ว เปลือกผิวด้านนอกบางผิวเรียบเมื่อหัวยังอ่อนอยู่จะเป็นสีขาว แต่เมื่อแก่แล้วจะเป็นสีน้ำตาล เนื้อในสีขาวใส ส่วนเหนือดินหรือลำต้นเทียมสูงได้ถึง 1.5 เมตร เป็นลำต้นเทียมที่เจริญโผล่ออกมาจากหัวหรือลำต้นจริง มีลักษณะทรงกลม มีเปลือกสีเขียว ประด้วยลายจุดสีน้ำตาลอมดำกระจายทั่ว ด้านในเป็นเยื่ออ่อนแตกใบออกด้านข้าง ใบเป็นใบเดี่ยวออกเรียงสลับ เวียนออกเป็นแนวรัศมี ใบมีขนาดใหญ่และเว้าลึก รูปฝ่ามือ ปลายแยกเป็น 3 แฉก แต่ละแฉกขอบเว้าลึก กว้าง 50-70 เซนติเมตร และยาว 120 เซนติเมตร ก้านใบรวมทั้งกาบใบ ยาว 20-170 เซนติเมตร ปลายใบแหลม ก้านใบทรงกลมสีดำแกมเขียว ดอกออกเป็นช่อ แบบซีรั่ม มีก้านดอกหลักที่เป็นลำต้นเทียม ยาวประมาณ 100-170 เซนติเมตร โดยช่อดอกอยู่ปลายสุด ใน 1 ช่อดอกจะมีดอกย่อยประมาณ 15-40 ดอก ดอกย่อยมีลักษณะเป็นรูปกรวย ถูกหุ้มด้วยกลีบเลี้ยงสีเขียวประด้วยสีดำ ด้านในเป็นกลีบดอก จำนวน 5 กลีบ มีสีเหลืองหรือสีเขียวอมม่วง ภายในมีเกสรตัวผู้ 6 อัน ปลายแผ่นเป็นแผ่น ตรงกลางเป็นก้านเกสรเพศตัวเมีย ปลายเกสรแยกเป็น 3 แฉก ระหว่างดอกย่อยมีใบประดับเป็นเส้นทรงกลมยาวสีดำหรือสีม่วงอมน้ำตาล ประมาณ 20-40 เส้น/ช่อดอก ซึ่งแต่ละเส้นจะยาวประมาณ 10-20 เซนติเมตร ผลมีลักษณะทรงกลมปลายเรียวแหลม ผลดิบมีเปลือกหุ้มผลมีสีเขียว เป็นสันนูนจากขั้วผลลงท้ายผล ประมาณ 5-6 สัน ท้ายผลมีกลีบห้อยเป็นติ่ง ส่วนผลแก่หรือผลสุกมีสีเหลือง โดยมีขนาดผลประมาณ 1.5-3 เซนติเมตร ภายในผลมีเปลือกหุ้มแข็ง ด้านในมีเมล็ดรูปไข่สีน้ำตาลผิวลาย ขนาด 5-8 มิลลิเมตรจำนวนมาก
การขยายพันธุ์เท้ายายม่อม
เท้ายายม่อมสามารถขยายพันธุ์ 2 วิธี คือ การเพาะด้วยเมล็ด ซึ่งจะใช้เมล็ดแก่ที่เก็บจากต้นหลังต้นแห้งตายแล้ว โดยควรเก็บเมล็ดไว้สักระยะ 2-3 เดือน เพื่อให้เมล็ดพักตัวก่อนแล้วจึงนำไปทำการเพาะเมล็ดและปลูกตามวิธีปกติ และอีกวิธีหนึ่งคือ การใช้หัวโดยใช้หัวลูกหรือหัวย่อยที่เจริญออกจากหัวแม่ได้เลย
ทั้งนี้การปลูกเท้ายายม่อมด้วยเมล็ดจะต้องรอให้ต้นเติบโต 2 ปีขึ้นไปถึงจะมาสามารถเก็บหัวได้ เพราะเจริญเติบโตช้ากว่าการปลูกด้วยหัวย่อย ซึ่งการใช้หัวย่อยปลูกจะสามารพเก็บหัวได้หลังปลูก 1 ปี
สำหรับการเก็บหัวเท้ายายม่อมควรเก็บในช่วงปลายฤดูหนาว-ต้นฤดูแล้ง ซึ่งสังเกตได้จากใบจะเริ่มเหลือง และเหี่ยวหรือยุบตัวและแห้งตาย
องค์ประกอบทางเคมี
มีผลการศึกษาถึงองค์ประกอบทางเคมีของหัวเท้ายายม่อมพบว่ามีสารสำคัญหลายชนิด เช่น Taccalin , β – sitosterol ,Cerylic alcohol , Steroidal Sapogenins, Sapogenins เป็นต้น
ที่มา : Wikipedia
รูปแบบและขนาดวิธีใช้
ใช้แก้ไข้ ขับเสมหะโดยใช้ราก มาต้มกับน้ำดื่ม ใช้เป็นยาบำรุงร่างกาย บำรุงกำลัง โดยใช้เหง้ามาต้มกับน้ำดื่ม ใช้บำรุงร่างกาย ช่วยให้เจริญอาหาร บำรุงหัวใจ แก้อ่อนเพลีย สมานแผลในกระเพาะอาหาร โดยใช้หัวมาทำแป้ง แล้วนำไปประกอบอาหารรับประทาน ใช้แก้ไส้เลื่อน แก้ริดสีดวง โดยใช้รากมาเผาให้ร้อนแล้วใช้ผ้าห่อแล้วจึงนั่งทับลงบริเวณที่เป็น ใช้แก้แมลงสัตว์กัดต่อย แก้พิษผดผื่นต่างๆ โดยใช้หัวหรือรากมาฝนกับน้ำมะนาวแล้วใช้ทาบริเวณที่เป็น ใช้ทาหน้าแก้สิวฝ้า ทำให้หน้าขาว โดยใช้ผงแป้งเท้ายายม่อมผสมกับน้ำผึ้ง แล้วนำมาพอกหน้าทิ้งไว้สักพักแล้วจึงล้างออก ใช้สมานแผลและห้ามเลือดโดยใช้ผงแห้งเท้ายายม่อมมาพอกบริเวณแผล
การศึกษาทางเภสัชวิทยา
เท้ายายม่อมเป็นพืชที่มีข้อมูลมีการศึกษาทางเภสัชวิทยาน้อยมากทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ แต่มีการศึกษาหนึ่งพบว่า สารรสขมที่ชื่อ Taccalin สามารถใช้เป็นยาแก้ท้องอืดท้องเสียและโรคเกี่ยวกับลำไส้ได้
การศึกษาทางพิษวิทยา
ไม่มีข้อมูล
ข้อแนะนำและข้อควรระวัง
- หัวเท้ายายม่อมสดมีรสขม และมีสารพิษ (เพราะเป็นพืชวงศ์เดียวกับกลอยและบุก) ดังนั้นจึงไม่ควรรับประทานสด โดยควรแปรรูปเป็นแป้งหรือควรให้ผ่านความร้อนก่อน
- ถึงแม้ว่าการบริโภคส่วนต่างๆเท้ายายม่อมที่แปรรูปอย่างถูกวิธีจะปลอดภัย แต่สำหรับการนำไปใช้เป็นยาสมุนไพรสำหรับบำบัดรักษาโรคต่างๆนั้น ควรระมัดระวังในการใช้เช่นเดียวกันกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ โดยควรใช้ในปริมาณที่พอดีที่ระบุไว้ในตำรับตำรายาต่างๆ และไม่ควรใช้ต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลานานจนเกินไป เพราะอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ สำหรับ เด็ก สตรีมีครรภ์ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง รวมถึงผู้ป่วยที่ต้องรับประทานยาต่อเนื่องก่อนจะใช้ส่วนต่างๆของเท้ายายม่อม เป็นสมุนไพรควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้เสมอ
เอกสารอ้างอิง
- มูลนิธิมหาวิทยาลัยมหิดล. “เท้ายายม่อม”. หนังสือสารานุกรมสมุนไพร เล่ม 4 กกยาอีสาน. หน้า 212.
- พจนานุกรมฉบับบัณฑิตยสถาน.2525.อักษรเจริญทัศน์จำกัด.กรุงเทพฯ.หน้า410
- สุนทรี สิงหบุตร.2536.สรรพคุณสมุนไพร 200 ชนิด พิมพ์ครั้งที่1.โอเอสพริ้นติ้งเฮ้าส์.กรุงเทพฯหน้า99.
- กนิษฐา ตัณติสุนทร , พิมพ์ใจ อาภาวัชรุตม์ . ผลของการเลี้ยงก้านใบของต้นเท้ายายม่อมต่อการพัฒนาเป็นต้นใหม่.วารสารเกษตร ปีที่15.ฉบับที่ 2 มิถุนายน 2542.หน้า156-163
- ศูนย์สนเทศการเกษตรและสหกรณ์.2528.พืชสมุนไพร2.สำนักงานเกษตรภาคกลางจังหวัดชัยนาท.สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์.หน้า28
- สิงโตดำ.ฐานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี (ออนไลน์)เข้าถึงได้จาก http://www.phargarden.com/main.php?action=viewpage&pid=176
- เท้ายายม่อม (Thahiti arrowroot) สรรพคุณและการปลูกเท้ายายม่อม.พืชเกษตรดอทคอม เว็บเพื่อพืชเกษตรไทย(ออนไลน์)เข้าถึงได้จากhttp://www.puechkset.com