ช้อยนางรำ ประโยชน์ดีๆ สรรพคุณเด่นๆ และข้อมูลงานวิจัย

ช้อยนางรำ งานวิจัยและสรรพคุณ 12 ข้อ

ชื่อสมุนไพร  ช้อยนางรำ

ชื่ออื่นๆ/ชื่อท้องถิ่น  นางช้อยนางรำ , นางรำ , ช้องช่างรำ , แพงแดง (ภาคเหนือ),ว่านมีดยับ (ภาคเหนือ), แพงแดง (ภาคตะวันออก)

ชื่อวิทยาศาสตร์Codariocalyx motorius (Houtt.) H. Ohashi

ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์  

  • Codariocalyx gyrans (L. f.) Hassk.
  • Desmodium gyrans (L.) DC.
  • Desmodium gyrans (L. f.) DC.
  • Desmodium gyrans (L.) DC. var. roylei (Wight & Arn.)Baker
  • Desmodium motorium (Houtt.) Merr.
  • Desmodium roylei Wight & Arn.
  • Hedysarum gyrans L. f.
  • Hedysarum motorium Houtt.
  • Hedysarum motorius Houtt.
  • Meibomia gyrans (L. f.) Kuntze

ชื่อสามัญTelegraph plant , Semaphore plant

วงศ์FABACEAE-LEGUMINOSAE

ถิ่นกำเนิด  ช้อยนางรำจัดเป็นพืชในวงศ์ถั่ว (FABACAEA) ที่มีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมในภูมิภาคเอเชียใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีการกระจายพันธุ์ไปในอินเดีย ศรีลังกา บังคลาเทศ พม่า ไทย ลาว เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย ป่าทั่วไป รวมถึงที่รกร้างว่างเปล่า ที่มีความชื้น แต่ในปัจจุบันหาได้ค่อนข้างยาก

ประโยชน์/สรรพคุณ ในอดีตมีการนำช้อยนางรำมาปลูกไว้ในกระถางแล้วตบมือ ใบอ่อนของพรรณไม้ชนิดนี้ก็จะกระดิกได้เป็นจังหวะ ซึ่งถือว่าเป็นพันธุ์ไม้ที่แปลก อีกทั้งยังมีความเชื่อในเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งโบราณเรียกว่ากายสิทธิ์ นับถือกันมแต่โบราณว่าเป็นไม้การสิทธิ์ มีอำนาจทางโชคลาภและเมตตามหานิยม หากบ้านหรือร้านค้าใดปลูกไว้ก็จะช่วยกวักเรียกเงินเรียกทองมาสู่ผู้ปลูกได้อีกด้วย

นอกจากนี้ช้อยนางรำยังมีสรรพคุณทางยา โดยในตำรายาไทยและตำรายาพื้นบ้านได้ระบุถึงสรรพคุณเอาไว้ดังนี้

  • ต้น เป็นสมุนไพรรสเย็น ใช้แก้ฝีภายใน แก้ฝีในท้อง ดับพิษร้อนภายใน
  • ใบ ใช้บำรุงกำลัง บำรุงกำหนัด แก้ไข้ตัวร้อน แก้ไข้พิษ แก้ไข้รำเพรำพัด แก้ฝีภายใน ขับปัสสาวะ แก้ประสาทพิการ ใช้เป็นยาถ่าย
  • ต้น ราก ใบ ใช้แก้ไข้ แก้อาการเจ็บป่วยทั่วไป แก้ไข้ประสาทพิการ ขับปัสสาวะ ใช้ขับพิษ
  • ราก ใช้แก้หอบหืด แก้ไอ แก้บิด

                อีกทั้งในตำรายาแผนโบราณได้ระบุว่า ใบของช้อยนางรำยังสามารถนำมาเข้ายาได้ และแพทย์แผนโบราณ ยังสามารถใช้ต้น ราก และใบของช้อยนางรำ มาโขลกให้ละเอียดกวนกับปรอทในน้ำหนักเท่ากัน เพื่อทำให้ปรอทแข็งตัวได้อีกด้วย

รูปแบบ/ขนาดวิธีใช้ ในอดีตใช้แก้ไข้ตัวร้อน แก้พิษไข้ แก้ไข้รำเพรำพัด แก้ฝีภายมน แก้ประสาทพิการ ขับปัสสาวะ ใช้เป็นยาถ่าย โดยนำใบมาต้มกับน้ำดื่ม  ใช้แก้ผีในท้อง แก้ฝีภายใน ดับพิษร้อนภายใน ขับพิษจากร่างกาย โดยนำทั้งต้นมาต้มกับน้ำดื่ม ใช้แก้ไข้ แก้อาการเจ็บป่วยทั่วไป แก้ไข้ประสาทพิการ ขับพิษ ขับปัสสาวะ โดยนำต้น , ราก และใบ มาต้มกับน้ำดื่ม ใช้แก้หอบหืด แก้ไอ แก้บิด โดยนำรากมาต้มกับน้ำดื่ม

การศึกษาวิจัยทางเภสัชวิทยา มีรายงานผลการศึกษาวิจัยทางเภสัชวิทยาของสารสกัดจากส่วนรากและใบของช้อยนางรำ ระบุว่ามีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยต่างๆ ดังนี้

สารสกัดจากส่วน ราก และใบ ของช้อยนางรำมีฤทธิ์ต้นอนุมูลอิสระ โดยมีความสัมพันธ์กับปริมาณของสารฟีนอลิก และฟลาโวนอยด์  นอกจากนี้สารสกัดดังกล่าวมีฤทธิ์ ต้านการอักเสบ (anti-inflammatory) ในเซลล์ เช่น ลดการสร้างไนตริกออกไซด์ (NO) และเอนไซม์โคลออกซีเจเนส-2 (COX-2) และยังยับยั้งการถ่ายโอนสัญญาณ (Syk/Src → NF-κB) โดยคาดว่าสารฟลาโวนอยด์ที่มีบทบาทได้แก่ luteolin, quercetin และ kaempferol  ส่วนอีกการศึกษาหนึ่งระบุว่า สารสกัดจากส่วนรากและส่วนใบ มีฤทธิ์ปกป้องตับ  และ ฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด  ซึ่งจากการทดสอบในหนูทดลอง มีข้อมูลสามารถลดค่าทางชีวเคมีที่เกี่ยวข้องกับการทำลายตับจากยา paracetamol และยังช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ในแบบการทดลอง streptozotocin-induced diabetic rats ได้

ลักษณะทั่วไป ช้อยนางรำจัดเป็นไม้พุ่มขนาดเล็กจำพวกหญ้า มีรากสะสมอาหารอยู่ใต้ดิน ลำต้นขนาดเล็กมีความสูงได้ถึง 100 เซนติเมตร เปลือกของลำต้นเมื่ออ่อนจะเป็นสีเขียว เมื่อลำต้นแก่จะเป็นสีน้ำตาลบางข้อมูลจัดเป็นว่านชนิดหนึ่ง แต่จะไม่มีหัวอย่างว่านทั่วไป  ใบเป็นใบเดี่ยวแยกเป็นใบย่อย 3 ใบ ออกเวียนรอบลำต้นแต่ละใบมีลักษณะเป็นรูปไข่ มีขนาดกว้าง 1-3 เซนติเมตร และยาว 2-7 เซนติเมตร โคนใบและปลายใบมน แผ่นใบบางเป็นสีเขียว ผิวใบด้านบนเป็นมัน เส้นกลางใบมีสีขาวนวล ส่วนด้านล่างมีขนละเอียดขึ้นปกคลุม  มีก้านใบยาวประมาณ 0.5-1 เซนติเมตร ดอกออกเป็นช่อแบบดอกถั่ว โดยแทงออกจากด้านข้างยอดหรือที่ปลายยอด ช่อดอกเป็นช่อดอกแบบติดดอกสลับ ดอกย่อยมีขนาดเล็กกลีบดอกบาง มีสีม่วงปนขาวหรือสีม่วงแดง และมีกลีบเลี้ยงเป็นรูปกระดิ่งส่วนก้านช่อดอกมีขนขึ้นปกคลุม ผลออกเป็นฝัก ขนาดกว้าง 0.3 เซนติเมตร ยาว 2.5 เซนติเมตร โดยฝักมีลักษณะแบนหักข้อ ฝักเมื่ออ่อนมีสีเขียว เมื่อฝักแก่มีสีน้ำตาล ภายในฝักจะมีเมล็ดคล้ายเมล็ดถั่วขนาดเล็กสีดำ ประมาณ 2-6 เมล็ด 

การขยายพันธุ์ ช้อยนางรำสามารถขยายพันธุ์ได้โดยวีการใช้เมล็ด ในอดีตมีการใช้เมล็มาหว่านปลูกไว้ดูเล่น เนื่องจากเป็นของแปลกที่ใบสามารถกระดิกได้ เมื่อมีเสียงดัง ต่อมาเริ่มไม่มีการนำมาปลูกจนในปัจจุบันไม่ค่อยพบเห็นและค่อนข้างหาได้ยาก สำหรับวิธีการเพาะเมล็ดและการปลูกช้อยนางรำนั้น สามารถทำได้เช่นเดียวกันกับการเพาะเมล็ดและการปลูกไม้พุ่ม หรือไม้ล้มลุกตะกูลถั่วทั่วไป ตามที่ได้กล่าวถึงมาแล้วก่อนหน้านี้

องค์ประกอบทางเคมี มีรายงานผลการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับองค์ประกอบทางเคมีของสารสกัดจากส่วนใบ และทั้งต้นของช้อยนางรำ ระบุว่าพบสารออกฤทธิ์ที่สำคัญหลายชนิดอาทิเช่น สารสกัดจากส่วนใบพบสารกลุ่ม ฟลาโวนอยด์ (flavonoids) อาทิเช่น genistein ,luteolin, quercetin และ kaempferol  เป็นต้น นอกจากนี้ยังพบกรดไขมัน (fatty acids)  เช่น linoleic acid และ eicosenoic acid ส่วนอีกรายงานหนึ่งระบุว่าสารสกัดจากทั้งต้นของช้อยนางรำ พบสารต่างๆ ดังนี้ genistein, hexadecanoic acid, tryptamine, salicylic acid, β-sitosterol-D-glucoside,2,3-dihydroxybenzoic acid,2,5-dihydroxybenzoic acid และ N,N-dimethyltryptamine เป็นต้น

การศึกษาวิจัยทางพิษวิทยา ไม่มีข้อมูล

ข้อแนะนำ/ข้อควรระวัง  ในการใช้ช้อยนางรำเป็นยาสมุนไพร ผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานและใช้ยาลดน้ำตาลในเลือดควรระมัดระวังในการใช้ เพราะมีรายงานการทดลองระบุว่าพบฤทธิ์ลดน้ำตาลซึ่งอาจก่อให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (hypoglycemia)

อ้างอิง ช้อยนางรำ

  1. เศรษฐมนตร์ กาญจนกุล.ว่าน.กทม.เศรษฐศิลป์.2553.หน้า32
  2. ดร.วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม,ช้อยนางรำ,หนังสือพจนานุกรมสมุนไพรไทย.ฉบับพิมพ์ครั้งที่5.หน้า244-245.
  3. สิทธิโชค แสงโสดา,สมุนไพร2.รายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์.สาขาวิชาจุลชีววิทยา สาขาวิชาชีววิทยา สำนักวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี.เมษายน2550.หน้า49.
  4. Chidambaram, U., Pachamuthu, V., Natarajan, S., Elango, B., Suriyanarayanan, S., & Ramkumar, K. M. (2013). In vitro evaluation of free radical scavenging activity of Codariocalyx motorius root extract. Asian Pacific Journal of Tropical Medicine, 6(3), 188–194.
  5. Kundu, N., Rahman, M. R., & Sarker, M. R. (2024). Phytochemical screening, analgesic, anti-hyperglycemic and hepatoprotective activity of ethanolic extract of Codariocalyx motorius leaves. Plants Journal (2024).
  6. Kim, E., Yoon, K. D., Lee, W.-S., Yang, W.-S., Kim, S. H., Sung, Y. H., … & Cho, J. Y. (2014). Syk/Src-targeted anti-inflammatory activity of Codariocalyx motorius ethanolic extract. Journal of Ethnopharmacology, 155(1), 185–193.
  7. BiomedRes (Biomedical Research network+) (year). The Unique Nutriceutical Components of the Ethnic Medicinal Plant – Codariocalyx motorius. Biomedical Research Journal.
  8. Uma, C., Suganya, N., Vanitha, P., Bhakkiyalakshmi, E., Suriyanarayanan, S., & Ramkumar, K. M. (2014). Antihyperglycemic effect of Codariocalyx motorius: modulated carbohydrate metabolic enzyme activities in streptozotocin-induced diabetic rats. Journal of Functional Foods, 11(Part B), 517–527.