ชุมเห็ดไทย ประโยชน์ดีๆ สรพพคุณเด่นๆและข้อมูงานวิจัย
ชุมเห็ดไทย งานวิจัยและสรรพคุณ 22ข้อ
ชื่อสมุนไพร ชุมเห็ดไทย
ชื่ออื่นๆ/ชื่อท้องถิ่น เล็บมื่นน้อย , ลับมือน้อย (ภาคเหนือ) , ชุมเห็ดควาย , ชุมเห็ดควาย , ชุมเห็ดนา , ชุมเห็ดเล็ก (ภาคกลาง) , พรมดาน พราดาน (ลุโขทัย) ,หญ้าลึกลืน (ปราจีนบุรี) , หน่อย หน่าหน่อ , กิเกีย (กะเหรี่ยง) ,เจี๋ยหมิงจื่อ , เอียฮวยแซ , ก๊วกเม้ง (จีน)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Senna tora (L.) Roxb.
ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Cassia tora Linn
ชื่อสามัญ Foetid cassia, Sickle senna
วงศ์ LEGUMINOSAE – CAESALPINIOIDEAE
ถิ่นกำเนิดชุมเห็ดไทย
ชุมเห็ดไทยเป็นพืชเขตร้อนมีถิ่นกำเนิดในอเมริกาใต้ และมีการแพร่กระจายพันธุ์ไปในเขตร้อนชื้นทั่วโลก แต่จะพบในเขตร้อนของเอเชียและอเมริกาใต้มากกว่าในแอฟริกา สำหรับในประเทศไทยพบได้ทั่วทุกภาคของประเทศ โดยมักพบขึ้นเองตามริมคลองตามริมทาง หรือตามที่รกร้าง โดยสามารถพบได้ทั้งพื้นราบหรือบนภูเขาสูงที่สูงถึง 1500 เมตร จากระดับน้ำทะเล
ประโยชน์และสรรพคุณชุมเห็ดไทย
- เป็นยาระบายอ่อนๆ
- ขับอุจจาระ รู้ถ่ายรู้ปิดเอง
- แก้ไอ
- รักษาโรคผิวหนัง
- บำรุงประสาท
- เป็นยาระงับประสาท
- แก้นอนไม่หลับ
- แก้กระษัย
- แก้ตาแดง ตามัว
- แก้ตับอักเสบ ตับแข็ง
- บำรุงกำลัง
- ลดความดันเลือดชั่วคราว
- บดผสมน้ำมันพืชทาแก้หิด กลากเกลื้อน
- บำรุงหัวใจ ทำให้ชุ่มชื่น ทำให้หลับสบาย
- ขับปัสสาวะ
- ขับพยาธิในท้อง
- แก้ไข้หวัด
- ขับน้ำเหลืองเสีย และขับพยาธิ
- ใช้ในเด็กที่มีอาการผิดปกติเกี่ยวกับลำไส้
- พอกโรคแก้เก๊าท์ (Gout) ปวดสะโพก ปวดขา ปวดข้อ
- แก้โรคกลาก หิด ผื่นคันต่างๆ
- แก้ฟกบวม
รูปแบบและขนาดวิธีใช้ชุมเห็ดไทย
ใช้ทำให้ง่วงนอน และนอนหลับได้ดีใช้เมล็ดชุมเห็ดไทย คั่วให้ดำเกรียมเหมือนเมล็ดกาแฟ แล้วทำเป็นผง ชงน้ำร้อนอย่างปรุงกาแฟ ดื่มหอมชุ่มชื่นใจดี ไม่ทำให้หัวใจสั่น ให้คนไข้ดื่มต่างน้ำ
ใช้เป็นยาระบายอ่อนๆ ใช้ใบหรือทั้งต้น ประมาณ 1 กำมือ 15- 3 กรัม เมล็ด 1 หยิบมือ 5- 10 กรัม ต้มกับน้ำ 1 ถ้วยแก้ว เติมกระวาน 2 ผล เพื่อกลบรสเหม็นเขียวและเกลือเล็กน้อย ดื่มก่อนอาหารเช้า หรือ เมล็ดแก่แห้ง คั่วจนเหลืองขนาด10-13กรัมต่อวัน (2-2.5ช้อนคาว) ต้มเอาน้ำดื่ม
ขับปัสสาวะ ใช้เมล็ดแห้งคั่ววันละ 5-15 กรัม (1-3 ช้อนคาว) ต้มกับน้ำ 1 ลิตร ต้มให้เหลือ 600 มิลลิลิตร แบ่งรับประทานวันละ 3 เวลา หลังอาหาร
ตาฝ้ามัว (ที่ไม่ได้เกิดจากโรคติดเชื้ออื่นใด) ใช้เมล็ด 2 ถ้วยชา บดเป็นผงกินกับข้าวต้มเป็นประจำ ห้ามกินร่วมกับปลา ต้นหอม เนื้อหมู ซิงไฉ่ (Rorippa Montana (Wall.) Small.)
ตาฟาง ใช้เมล็ดแห้ง 60 กรัม กับเมล็ดโคเชีย (Kochia scoparia (L.) Schrad.) แห้ง 30 กรัมบดเป็นผงกินหลังอาหารครั้งละ 3 กรัม
ใช้ทำให้ตาสว่าง ใช้เมล็ดแห้ง 1 ถ้วยชา มั่งเก๊กจี้ (Vitex rotundifolia L.) แห้ง 1 ถ้วยชา เหล้าอย่างดี 1 ถ้วยชา ต้มจนเหล้าแห้ง นำมาบดเป็นผง กินกับน้ำอุ่นครั้งละ 6 กรัม วันละ 4 ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอน
แก้เยื่อตาอักเสบอย่างเฉียบพลัน ใช้เมล็ดแห้งและเก๊กฮวยอย่างละ 10 กรัม มั่งเก๊กจี้ (Vitex rotundifolia L.) และบักชัก (Equisetum hiemale L.) อย่างละ 6 กรัม ต้มน้ำกิน
ลดความดันเลือด ใช้เมล็ดแห้ง 30 กรัม คั่วให้หอม ชงกินแทนน้ำชา
แก้เด็กเป็นตานขโมยใช้เมล็ดแห้ง 10 กรัม ตับไก่ 1 คู่ บดผสมเหล้าขาวเล็กน้อยปั้นเป็นก้อนนึ่งให้สุกกิน
แก้กลาก ใช้เมล็ดจำนวนพอสมควรบดเป็นผง ผสมจุยงิ่งฮุ่ง (Mercrous chloride, HgCI) จำนวนเล็กน้อยบดผสมให้เข้ากันดี ใช้สำลีหรือผ้าเช็ดถูกลากให้สะอาดแล้วโรยยาปิดไว้
แก้ไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัด ใช้ใบหรือทั้งต้น แห้ง 15-30 กรัม (สดเพิ่ม 1 เท่าตัว) ผสมชะเอมต้มน้ำกิน
ส่วนขนาดของการปรุงยาในรูปแบบต่างๆ ดังต่อไปนี้ให้ใช้ในปริมาณที่กำหนดคือ ยาต้ม ใช้เมล็ดแห้ง 30 กรัม ต้มน้ำแบ่งกินเป็น 2 ครั้งต่อวัน ยาน้ำเชื่อม ใช้เมล็ดแห้งบดเป็นผงหนัก 45 กรัม ผสมน้ำเชื่อมให้ได้ปริมาณครบ 100 มล.กินครั้งละ 20 มล.วันละ 3 ครั้ง ยาเม็ด แต่ละเม็ดมีเมล็ดแห้งบดเป็นผงหนัก 2 กรัม กินครั้งละ 5 เม็ด วันละ 3 ครั้ง
ลักษณะทั่วไปชุมเห็ดไทย
ชุมเห็ดไทยจัดเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก มีอายุราว 1 ปี ต้นมีความสูงประมาณ 0.3-1.3 เมตร มีเส้นผ่านศูนย์กลางของลำต้นประมาณ 12.3-17.4 มิลลิเมตร ลำต้นเป็นสีเขียวอมสีน้ำตาลแดง ลำต้นแตกกิ่งก้านสาขามาก เป็นทรงพุ่ม ตามลำต้นและกิ่งก้านมีขนอ่อนปกคลุม ใบเป็นใบประกอบออกสลับกัน มีใบย่อย 3 คู่ บริเวณก้านใบร่วมระหว่างใบย่อยคู่ที่ 1 และคู่ที่ 2 มีตุ่มนูนขึ้นมา 1 ตุ่ม ย่อยลักษณะเป็นรูปไข่ ปลายป้าน ยาว 2-3 ซม. กว้าง 1.5-3 ซม. ปลายใบมนกลม ส่วนปลายสุดแหลมสั้น ฐานใบมนเอียงไปข้างหนึ่ง ขอบใบเรียบ ด้านหลังใบแทบไม่มีขน ท้องใบมีขนอ่อนนุ่ม ดอกสีเหลือง มักออกเป็นคู่จากง่ามใบ ก้านดอกร่วมในขณะ ที่ดอกบานเต็มที่ยาว 0.6-1 ซม. เส้นผ่าศูนย์กลางดอกยาวประมาณ 1.5 ซม. กลีบเลี้ยงมี 5 กลีบ ลักษณะรีผิวนอกมีขนอ่อน นุ่ม กลีบดอกมี 5 กลีบ สีเหลือง ปลายมนยาว 0.8-1.2 ซม. เกสรตัวผู้มี 10 อัน, 3 อัน ที่อยู่ด้านบนจะเสื่อมไป อีก 7 อัน ที่อยู่ รอบๆ จะเจริญเติบโตเต็มที่ รังไข่เป็นเส้นยาวงอโค้งเล็กน้อย มีขนสั้นๆ ปกคลุม ปลายก้านเกสรตัวเมียเป็นตุ่มสั้นๆ ฝักเป็นเส้นยาวโค้งเล็กน้อย แบนทั้ง 2 ด้าน ยาว 15-24 ซม. กว้าง 4-6 มม. ปกคลุมด้วยขนอ่อนนุ่มสั้นๆ มีเมล็ดจำนวนมาก (ประมาณ 20-30 เม็ด) เมล็ดทรงกระบอกแบนเล็กน้อย ปลายตัดทั้ง 2 ด้าน ปลายหนึ่งแหลมยาวกว่าอีกด้านหนึ่งผิวนอกเรียบเป็นมัน สีเขียวออกน้ำตาล กว้าง 2.5-3 มม. ยาว 5-8 มม.
การขยายพันธุ์ชุมเห็ดไทย
ชุมเห็ดไทย สามารถขยายพันธุ์ได้โดยการเพาะเมล็ด เช่นเดียวกับพืชที่มีเมล็ดอื่นๆ หลังจากการเพาะเมล็ดประมาณ 10-15 วัน เมล็ดจะเริ่มงอกเป็นต้นกล้า และเมื่อต้นกล้ามีอายุ 20-40 วัน ก็สามารถย้ายไปปลูกในแปลงหรือในบริเวณที่ต้องการได้ หรืออาจจะใช้วิธีโรยเมล็ดแก่ของชุมเห็ดไทยในบริเวณที่ต้องการแล้วปล่อยให้ขึ้นเองตามธรรมชาติก็ได้ เพราะชุมเห็ดไทยเป็นพืชโตเร็วที่ทนแล้งได้พอสมควร ชอบที่ที่มีแดดจัดและไม่ขอบในที่ร่ม สามารถขึ้นได้ดีในดินดีในดินทุกชนิดที่มีความชุ่มชื้น
องค์ประกอบทางเคมี
ในเมล็ดประกอบด้วยสารกลุ่ม anthraquinone glycoside เช่น emodin , aloe-emodin ,chrysophanol , chrysophanic acid-9-anthrone , physicone, rhein, alaternin ,cassiaside , rubrofusarin-gentiobioside aurantio-obtusin, obtusin 1-desmethylaurantio-obtusin, chryso-obtusin 1-desmethylchryso-obtusin น้ำมันจากเมล็ด พบ linoleic acid, oleic acid, palmitic acid, stearic acid ใบ พบ chrysophanic acid, emodin และ 1, 68, -trihydroxy-3 methl anthraquinone
รูปภาพองค์ประกอบทางเคมีของชุมเห็ดไทย
ที่มา : Wikipedie
การศึกษาทางเภสัชวิทยา
ฤทธิ์กระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ สารสกัดใบชุมเห็ดไทยด้วยเมทานอลเมื่อนำมาทดสอบกับการบีบตัวของลำไส้เล็กพบว่า มีฤทธิ์กระตุ้นการบีบตัวของกล้ามเนื้อเรียบลำไส้เล็กส่วนปลาย (ileum) ของหนูตะเภา และลำไส้เล็กส่วนกลาง (jejunum) ของกระต่าย
ฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดอาการท้องเสีย สารสกัดใบและเมล็ดชุมเห็ดไทย ด้วยไดเอทิลอีเทอร์ อะซิโตน เอทิลแอลกอฮอล์ และน้ำ เมื่อนำมาทดสอบฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย Escherichia coli, Bacillus subtilis พบว่าสารสกัดใบชุมเห็ดไทยไม่สามารถต้านเชื้อแบคทีเรียดังกล่าวได้ ในขณะที่สารสกัดเมล็ดชุมเห็ดไทยสามารถต้านเชื้อ B. Subtilis ได้ปานกลาง แต่ไม่มีผลต่อเชื้อ E. Coli (10) สารสกัดน้ำของใบชุมเห็ดไทยความเข้มข้น 200 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร เมื่อนำมาทดสอบฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย E. Coli พบว่ามีฤทธิ์ต้านเชื้อดังกล่าวได้เล็กน้อย เมื่อเทียบกับยาปฏิชีวนะ gentimicin 200 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร สารสกัดน้ำเมล็ดชุมเห็ดไทย เมื่อนำมาทดสอบกับเชื้อ E. coli ที่เป็นสาเหตุให้ลูกหมูท้องเสีย ในจานเพาะเลี้ยงเชื้อ พบว่าสามารถยับยั้งเชื้อดังกล่าวได้โดยใช้ความเข้มข้นมากกว่า 20.8 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร สาร quinizarin จากเมล็ดชุมเห็ดไทย ความเข้มข้น 1 มิลลิกรัม/แผ่น มีฤทธิ์ยับยั้งอย่างแรงต่อเชื้อแบคทีเรีย Clostridium perfringens ที่ทำให้เกิดอาการท้องเสียเนื่องจากอาหารเป็นพิษ แต่ไม่มีผลต่อเชื้อแบคทีเรีย Bifidobacterium adolescentis, B. bifidum, B. longum และ Lactobacillus casei ที่อยู่ในลำไส้ของคน
ฤทธิ์ต้านเชื้อรา สารสกัดหยาบของใบชุมเห็ดไทยด้วยเมทานอล เมื่อนำมาทดสอบฤทธิ์ต้านเชื้อรา 3 ชนิด ที่ก่อให้เกิดโรคผิวหนัง Microsporum gypseum, Trichophyton rubrum และ Penicillium marneffei พบว่าความเข้มข้นที่ยับยั้งการเจริญของเส้นใยราได้ 50% (IC50) เท่ากับ 1.8, 1.2, 1.8 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร ตามลำดับ และค่า IC50 ต่อการงอกของ macrocondia ของเชื้อ M. gypseum มีค่าเท่ากับ 4.1 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร ซึ่งจากการศึกษาด้วยกล้องจุลทรรศน์ชนิดส่องกราด พบว่าสารสกัดใบชุมเห็ดไทยทำให้เส้นใยรา และ macrocondia มีลักษณะผิดปกติ หดตัว และเหี่ยวย่น สารสกัดใบชุมเห็ดไทยด้วย 90% เมทานอล ความเข้มข้น 100, 200, 300 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร พบว่าสารสกัดดังกล่าวสามารถต้านเชื้อรา T.mentagophytes ที่ทำให้เกิดโรคกลาก เกลื้อน โดยยับยั้งการสร้างสปอร์ของเชื้อดังกล่าวได้ เท่ากับ 68.40 ± 9.4, 73.90 ± 9.8, 88.50 ± 9.7 % เมื่อเทียบกับยามาตรฐาน griseofulvin 1,000 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร ที่สามารถยับยั้งการสร้างสปอร์ของเชื้อราได้ 87.55 ± 10.5 % ซึ่งจะเห็นได้ว่าสารสกัดใบชุมเห็ดไทยที่ความเข้มข้น 300 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร ให้ผลดีที่สุด
สารสกัดชุมเห็ดไทยด้วยคลอโรฟอร์ม ความเข้มข้น 100 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร สารแอนทราควิโนนกลัยโคไซด์ สามารถต้านเชื้อรา T. Mentagophytes, T. granulosum , T.rubrum และ M. gypseum ได้ แต่ไม่มีผลต่อเชื้อ Epidermophyton floccosum
ฤทธิ์ต้านยีสต์ สารสกัดใบชุมเห็ดไทยด้วย 90% เมทานอล ความเข้มข้น 100, 200, 300 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร พบว่าสารสกัดดังกล่าวสามารถต้านยีสต์ Candida albicans ได้ เท่ากับ 78.23 ± 10.5, 87.52 ± 9.4, 95.30 ± 11.2 % เมื่อเทียบกับยามาตรฐาน griseofulvin 1,000 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร ที่สามารถยับยั้งการสร้างสปอร์ได้ 96.70 ± 8.9 % ซึ่งจะเห็นได้ว่าสารสกัดใบชุมเห็ดไทยที่ความเข้มข้น 300 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร ให้ผลดีที่สุด (15) แต่สารสกัดชุมเห็ดไทยด้วยคลอโรฟอร์ม ความเข้มข้น 100 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร ไม่สามารถต้านเชื้อ C. albicans ได้
ฤทธิ์ลดความดันเลือด เมล็ดสกัดด้วยน้ำหรือแอลกอฮอล์ สารที่สกัดด้วยแอลกอฮอล์ มีฤทธิ์ลดความดันเลือดสุนัข แมว และกระต่ายที่ทำให้สลบสารสกัดด้วยน้ำ มีฤทธิ์ลดความดันเลือดกระต่ายทดลองที่ทำให้สลบไม่เด่นชัดนัก ถ้าใช้ทิงเจอร์จากเมล็ดนี้ 5 มล.จะเห็นผลเด่นชัด และออกฤทธิ์ได้นานกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้สารสกัดด้วยแอลกกอฮอล์ 5 มล.ฉีดเข้าหลอดเลือดดำ ความดันเลือดจะลดลงเร็วกว่า แต่มีฤทธิ์สั้น ในเวลาไม่นานนักความดันเลือดก็จะกลับคืนสู่ระดับเดิม นอกจากนี้ยังทำให้หลอดเลือดของสัตว์ทดลองหดตัวและกดหัวใจคางคกที่แยกออกจากตัว ถ้าใช้เมล็ดจำนวนน้อย( 2 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กก.)ต้มน้ำให้กินทุกวัน จะไม่มีผลลดความดันเลือด
ในประเทศจีนมีการศึกษาทางคลินิกของชุมเห็ดไทย โดยใช้ลดความดันเลือดและระดับคลอเรสเตอรอลในเลือด จากคนไข้ 100 คนก่อนการรักษามีระดับ sterol ในซีรั่มอยู่ระหว่าง 482-210 มก.% (เฉลี่ย 246.91 มก.%)หลังการรักษาระดับ sterol ในซีรั่มอยู่ระหว่าง 110-208 มก.% ( โดยเฉลี่ยระดับ sterol ลดลง 87.9 มก.%) คนไข้ส่วนใหญ่หลังจากใช้ยานี้แล้ว 2 อาทิตย์ จำนวน 85 % ของคนไข้มีความดันเลือดลดลงเป็นปกติ และหลังจากใช้ยานี้ต่อไปอีก 2 อาทิตย์จำนวนคนไข้ที่มีความดันเลือดลดลงเป็นปกติเพิ่มขึ้น รวมทั้งหมดเป็น 96 % ของจำนวนคนไข้ หากใช้ยานี้เป็นประจำ สามารถลดความดันเลือดของคนไข้ลงสู่ระดับปกติได้ผลถึง 98% ของจำนวนคนไข้ จากการติดตามผลของคนไข้ที่ใช้ยานี้เป็นประจำ 5 ราย แต่มีเหตุต้องหยุดยา ระดับ sterol ในซีรั่มของถุงน้ำดีค่อยๆ เพิ่มขึ้น เมื่อให้กินยานี้ต่อไป ระดับ sterol ในซีรั่มของถุงน้ำดีจะลดลง แสดงว่ายานี้สามารถลดระดับ sterol ในซีรั่มของถุงน้ำดีเป็นการชั่วคราวเท่านั้น ถ้าจะให้สรุปผลของยานี้ให้แน่นอน ควรรักษาติดต่อไปนานกว่านี้ และอาการข้างเคียงที่ปรากฏคือ จำนวน 85 % ของคนไข้ หลังจากการกินยานี้แล้ว มีอาการวิงเวียน ปวดหัว และอ่อนเพลีย จำนวน 9 % ของคนไข้มีอาการท้องอืดแน่น ท้องเสีย และใจคอไม่สบาย แต่เมื่อใช้ต่อไปอาการต่างๆก็จะหายไปเอง สารสกัดเอทานอลจากเมล็ด ลดระดับ total cholesterol ได้ 42.07% และเพิ่มระดับ HDL ได้ 6.72% ลดระดับไตรกลีเซอไรด์ได้ 26.84% และลดระดับ LDL ได้ 69.25%
การศึกษาทางพิษวิทยา
การทดสอบความเป็นพิษ สารสกัดใบชุมเห็ดไทย ขนาด 10, 100, 1,000, 1,500 และ 2,000 มิลลิกรัม/กิโลกรัม เมื่อป้อนหรือฉีดเข้าทางช่องท้องหนูเม้าส์ ไม่พบอาการผิดปกติใดๆภายใน 24 ชั่วโมง เมื่อฉีดสารสกัดเมล็ดด้วยแอลกอฮอล์ 50% เข้าช่องท้องของหนูเม้าส์ พบว่ามีพิษสูงมาก เมื่อผสมสารสกัดจากเมล็ดแห้งในอาหารให้หนูกิน พบว่าทำให้น้ำหนักตัวลด ฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ สารสกัดจากเมล็ดด้วยน้ำและเมทานอล (100 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร) ไม่มีผลต่อการก่อกลายพันธุ์ของ Bacillus subtilis และ S. typphimurium สาย TA 98 และTA 100
ข้อแนะนำและข้อควรระวัง
- สำหรับผู้ที่มีภาวะไตไม่ปกติ หรือเป็นโรคที่เกี่ยวกับไตห้ามใช้ชุมเห็ดไทยสมุนไพรชนิดนี้
- ควรระมัดระวังการใช้ในเด็กสตรีตั้งครรภ์และผู้ป่วยโรคลำไส้อักเสบ (inflammatory bowel diseases)
- สำหรับผู้ที่ธาตุอ่อน ท้องเสียได้ง่าย หรือผู้ที่กำลังมีอาการท้องเสีย ไม่ควรใช้ชุมเห็ดเทศ
- การใช้เมล็ดชุมเห็ดไทยเป็นยาในขนาดที่สูงเกินไปอาจทำให้ไตอักเสบและทำให้ท้องเสียได้
- เมล็ดชุมเห็ดไทยที่จะนำมาทำยาก่อนต้องคั่วให้เกรียมก่อนเท่านั้น
เอกสารอ้างอิง
- ชุมเห็ดไทย.สมุนไพรที่ใช้ในงานสาธารณสุขมูลฐาน.สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
- หนังสือสมุนไพรไทย เล่ม 1. “ชุมเห็ดไทย (Chumhet Thai)”. (ดร.นิจศิริ เรืองรังษี, ธวัชชัย มังคละคุปต์). หน้า 109.
- Desai HB, Shukla PC. Note on chrysophanic acid in Cassia tora seeds and its removal by different treatments. Gujarat Agric Univ Res J 1978; 4(1): 60.
- พวงน้อย โลหะขจรพันธ์. การศึกษาฤทธิ์การฆ่าเชื้อบักเตรีและเชื้อราของสมุนไพรบางชนิด. วิทยานิพนธ์ วิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต. กรุงเทพ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2521.
- หนังสือสารานุกรมสมุนไพรไทย-จีนที่ใช้บ่อยในประเทศไทย. “ชุมเห็ดไทย”. (วิทยา บุญวรพัฒน์). หน้า 210.
- หนังสือพจนานุกรมสมุนไพรไทย, ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 5. “ชุมเห็ดไทย”. (ดร.วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม). หน้า 274-278.
- ภก.ชัยโย ชัยชาญทิพยุทธ.ชุมเห็ดไทย/ชุมเห็ดเทศ.คอลัมน์ สมุนไพรน่ารู้.นิตยสารหมอชาวบ้าน เล่มที่26.กรกฏาคม 2524.
- ชุมเห็ดไทย.ฐานข้อมูลเครื่องยาคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี(ออนไลน์).เข้าถึงได้จาก http://www.thaicrudrdrug.com/main.
- ชุมเห็ดไทย.กลุ่มยากล่อมประสาททำให้นอนหลับ.สรรพคุณสมุนไพร 200 ชนิด.โครงการอนุรักษ์พันธุ์กรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมกุมารี(ออนไลน์)เข้าถึงได้จากhttp://www.rspg.or.th/plants_data/herbs/herbs_14_2.htm
- บัณฑิตย์ ลิมปนชัยพรกุล. คุณสมบัติของสมุนไพรบางชนิดที่มีผลต่อการเจริญของเชื้อราที่เป็นสาเหตุของโรคผิวหนัง. รวมบทคัดย่องานวิจัย การแพทย์แผนไทยและทิศทางการวิจัยในอนาคต, สถาบันการแพทย์แผนไทย, 2543.
- สำนักงานข้อมูลสมุนไพร. คู่มือสมุนไพรประจำตู้ยา. กรุงเทพฯ: คณะเภสัชศาสตร์. มหาวิทยาลัยมหิดล, 2530. หน้า 70.
- Lee H-S. Inhibitory effects of quinizarin isolated from Cassia tora seeds against human intestinal bacteria and aflatoxin B1 biotransformation. Journal of Microbiology and Biotechnology 2003;13(4):529-36.
- Adamu HA, Abayeh OJ, Agho MO, Abdullahi AL, Uba A, Dukku HU, Wufem BM. An ethnobotanical survey of Bauchi State herbal plants and their antimicrobial activity. J Ethnopharmacol 2005;99:1-4.
- Ito K, Ota N. Effects of vegetable drugs on pathogenic fungi. I Effects of anthraquinone-glycoside containing crude drugs upon the growth of pathogenic fungi. Bull Pharm Research Inst Japan 1951;(2):23-9.
- Chidume FC, Kwanashie HO, Adekeye JO, Wambebe C, Gamaniel KS. Antinociceptive and smooth muscle contracting activities of the methanolic extract of Cassia tora leaf. J Ethnopharmacol 2002;81:205-9.
- Morimoto I, Watanabe F, Osawa T, Okitsu T, Kada T. Mutagenicity screening of crude drugs with Bacillus subtilis Rec-assay and Salmonella/ microsome reversion assay. Mutat Res 1982; 97: 81.
- Kanbutra P, Porntrakulpipat S, Borisutpeth P, et al. Anti-bacterial activity of Thai medicinal plants on Escherichia coli (F18+). The 2nd International Conference on Medicinal Mushroom and The International Conference on Biodiversity and Bioactive Compounds, 17-19 July, Pattaya, Thailand, 2003.
- Niranjan GS, Katiyar SK. Chemical examination and biological evaluation of proteins isolated from some wild legumes. J Indian Chem Soc 1981; 58: 70.
- Kolatat T, Julkarat P. Effect of Cassia tora on kidney blood circulation. Siriraj Hosp Gaz 1973;25(3):434.
- Mukherjee PK, Saha K, Saha BP, Pal M. Antifungal activities of leaf extract of Cassia tora Linn. (Fam. Leguminosae). Phytother Res 1996;10(6):521-2.