ระย่อมน้อย ประโยชน์ดีๆ สรรพคุณเด่นๆ และข้อมูลงานวิจัย
ระย่อมน้อย งานวิจัยและสรรพคุณ 19ข้อ
ชื่อสมุนไพร ระย่อมน้อย
ชื่ออื่นๆ/ชื่อท้องถิ่น ระย่อม(ภาคกลาง),ย่อมตีนหมา (ภาคเหนือ) , เข็มขาว , เข็มแดง (ภาคอีสาน) , กะย่อม (ภาคใต้) ,ปลายข้าวสาร (กระบี่) , ละย่อม (สุราษฎร์ธานี),กอเหม่ (กะเหรี่ยงแม่ฮ่องสอน) , สะมออู , มะโอ่งที , ตูมคลาน (กะเหรี่ยงกาญจนบุรี) ,อินตู้หลัวฟูมุ , เสอเกินมุ (จีน)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Rauvolfia serpentina (L.) Benth. ex Kurz
ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Ophioxylon album Gaertn, Ophioxylon serpentinum Linn.
ชื่อสามัญ Serpent wood , Rauvolfia , Indian snake roots
วงศ์ APOCYNACEAE
ถิ่นกำเนิดระย่อมน้อย
ระย่อมน้อยเป็นพันธุ์พืชที่มีถิ่นกำเนิดในบริเวณภูมิภาคเอเชียใต้ เช่น อินเดีย ศรีลังกา เนปาล ภูฐาน แล้วมีการแพร่กระจายพันธุ์เป็นวงกว้างไปยังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ ในประเทศ พม่า ไทย ลาว มาเลเซีย เป็นต้น (ซึ่งโดยส่วนมากแล้วจะสามารถพบเห็นระย่อมน้อยได้ในที่โล่งในป่าดิบชื้น ป่าดิบเขา ป่าดิบแล้ง หรือป่าเบญจพรรณ ต่างๆ สำหรับในประเทศไทยสามารถพบได้ทั่วทุกภาคของประเทศ
ประโยชน์และสรรพคุณระย่อมน้อย
- เป็นยารักษาหิด
- แก้พิษแมลงกัดต่อย
- แก้ผดผื่นคัน
- เป็นยาเย็นมีรสขม
- เป็นยาลดความดันโลหิตสูง
- เป็นยากล่อมประสาท ทำให้ง่วงนอน และอยากอาหาร
- ช่วยขับพิษร้อนถอนพิษไข้
- แก้พิษกาฬ
- แก้บิด
- แก้ท้องเสีย ท้องเดิน
- ช่วยขับพยาธิ
- ช่วยขับปัสสาวะ
- ขับระดูในสตรีบำรุงความกำหนด
- ช่วยให้ระบาย
- แก้ไข้พิษ
- แก้ไข้สันนิบาต
- ช่วยบำรุงโลหิต
- แก้โรคตาแดง
- ใช้รักษาโรคแก้วตามัว
ลักษณะทั่วไประย่อมน้อย
ระย่อมน้อย จัดเป็นไม้พุ่มขนาดเล็กสูงประมาณ 30-70 เซนติเมตร จัดเป็นไม้ผลัดใบในช่วงฤดูแล้ง ลำต้นคดงอ เป็นสีน้ำตาลอมเทา เมื่อสะกิดให้เกิดแผลจะมียางสีขาวออกมา รากใต้ดินมีขนาดใหญ่กว่าลำต้นและจะมีรอยแผลใบอยู่ทั่วลำต้น ใบเป็นใบเดี่ยว ใบออกดอกหนาทึบ โดยออกเรียงตรงข้ามกัน หรือออกเรียงรอบข้อ โดยจะมีข้อละ 3 ใบ ลักษณะของใบเป็นรูปรีหรือรูปหอกใหญ่ ขอบใบเรียบปลายใบแหลม โคนใบสอบ ใบกว้างประมาณ 4-8 เซนติเมตร และยาวประมาณ 7-20 เซนติเมตร แผ่นใบหนา เรียบมันสีเขียวเข้ม ดอกเป็นช่อที่บริเวณปลายกิ่งและปลายยอดโดยจะออกเป็นกระจุก ลักษณะคล้ายดอกเข็ม โดยในแต่ละกระจุกจะมีดอกย่อย ประมาณ 5-50 ดอก โดยโคนกลีบดอกจะเป็นหลอดสีแดงส่วนกลีบ ดอกเป็นสีขาว มี 5 กลีบ และจะมีกระเปาะเล็กๆตรงกลางหลอด ส่วนกลีบเลี้ยงเป็นสีขาวแกมเขียว พอดอกโรยจะเปลี่ยนเป็นสีแดง ผลเป็นผลสดรูปทรงกลมหรือรูปทรงรี ผิวผลเรียบเป็นมัน มีขนาดประมาณ 1-2เซนติเมตร ผลอ่อนเป็นสีเขียว เมื่อสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงดำหรือสีดำ ในผลมีเมล็ด 1 เมล็ด
การขยายพันธุ์ระย่อมน้อย
ระย่อมน้อยสามารถขยายพันธุ์ได้โดยวิธีการเพาะเมล็ด และการตอนกิ่ง ส่วนวิธีการก็สามารถทำได้เช่นเดียวกันกับการเพาะเมล็ดและการตอนกิ่งพันธุ์ไม้พุ่มอื่นๆ ที่ได้กล่าวมาแล้วในบทความก่อนหน้านี้ แต่ในปัจจุบันการปลูกขยายพันธุ์ระย่อมน้อยในเชิงพาณิชย์ยังไม่เป็นที่นิยมโดยส่วนมากจะเป็นการขยายพันธุ์ตามธรรมชาติมากกว่า ทั้งนี้ระย่อมน้อยเป็นพรรณไม้ที่ต้องการความชุ่มชื้นสูง และเจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนซุยที่มีอินทรียวัตถุมาก
องค์ประกอบทางเคมี
มีการศึกษาองค์ประกอบทางเคมีของระย่อมน้อยพบว่ามีสาระสำคัญหลายชนิดเช่น สารกลุ่ม Indole alkaloids ได้แก่ ajmalinimine, ajmaline,rauhinbine , raurolfia alkaloid G, reserpine, rescinnamidine,yohimbine, sarpagine, serpentinine, sitosterol, stigmasterol, serpentine, vinorine เป็นต้น
ที่มา : Wikipedia
รูปแบบและขนาดวิธีใช้
ใช้ลดความดันโลหิต ใช้รากแห้ง 200 มิลลิกรัมต่อวัน ป่นเป็นผงคลุกกับน้ำผึ้งปั้นเป็นยาเม็ด รับประทาน 1-3 อาทิตย์ติดต่อกัน ใช้เป็นยาช่วยย่อยอาหาร ช่วยบำรุงประสาทช่วยแก้โลหิตเป็นพิษ ช่วยฟอกเลือด ทำให้เลือดเย็น โดยนำรากมาบดผงปั้นเม็ดหรือคั่วให้กรอบแล้วนำมาชงหรือต้มกับน้ำดื่ม ใช้แก้ไข้ตัวร้อน แก้บิด แก้ท้องเดิน ท้องเสีย ใช้กล่อมประสาท ขับปัสสาวะ ขับพยาธิ ขับระดูในสตรี บำรุงความกำหนด โดยใช้รากแห้ง 100 กรัม มาต้มกับน้ำดื่ม ใช้เป็นยารักษาหิด โดยใช้รากสด 2-3 ราก นำมาตำให้ละเอียด เติมน้ำมันพืชพอแฉะๆ ใช้ทาบริเวณที่เป็นหิดวันละ 2-3 ครั้ง จนกว่าจะหาย
การศึกษาทางเภสัชวิทยา
มีผลการศึกษาทางเภสัชวิทยาของระย่อมน้อยในต่างประเทศพบว่า มีฤทธิ์ลดความดันโลหิต ลดระดับน้ำตาลในเลือด ระงับประสาท กระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ กระตุ้นความต้องการทางเพศ โดยมีการศึกษาเพิ่มเติมพบว่า สารที่ออกฤทธิ์ลดความดันโลหิต คือ สาร reserpine และสารที่ออกฤทธิ์กระตุ้นความต้องการทางเพศ คือ สาร rauhinbine
การศึกษาทางพิษวิทยา
มีข้อมูลการศึกษาทางพิษวิทยาในต่างประเทศระบุว่าในรากระย่อมน้อยมีสาร Alkaloids บางตัวเป็นพิษต่อสัตว์ทดลองเมื่อใช้เป็นระยะเวลานาน
ข้อแนะนำและข้อควรระวัง
- ระย่อมน้อยมีสรรพคุณในการขับระดู ดังนั้นสตรีมีครรภ์และสตรีให้นมบุตรห้ามใช้ เพราะจะทำให้แท้งลูกหรืออาจเกิดอันตรายสู่ทารกได้
- รากระย่อมน้อยมีพิษเบื่อเมาอ่อนๆ สตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตร ห้ามใช้ยาที่มีส่วนผสมระย่อมเด็ดขาด
- ในการใช้ระย่อมน้อย เพื่อเป็นสมุนไพรสำหรับบำบัดรักษาโรคต่างๆนั้น ควรระมัดระวังในการใช้เช่นเดียวกันกับการใช้สมุนไพรชนิดอื่นๆ โดยควรใช้ตามปริมาณที่ระบุไว้ในตำรายาต่างๆ ไม่ควรใช้เกินปริมาณที่กำหนด และไม่ควรใช้ต่อเนื่องกันเป็นเวลานานจนเกินไป เพราะอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ สำหรับผู้ป่วยเรื้อรัง รวมถึงผู้ป่วยที่ต้องรับประทานยาต่อเนื่อง ก่อนจะใช้ระย่อมน้อยเพื่อเป็นสุมนไพรบำบัดรักษาโรคต่างๆ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้เสมอ
เอกสารอ้างอิง
- เภสัชกรหญิง จุไรรัตน์ เกิดดอนแฝก. “ระย่อม”. หนังสือสมุนไพรบำบัดเบาหวาน 150 ชนิด. หน้า 135-136.
- วิทยา บุญวรพัฒน์. “ระย่อมน้อย”. หนังสือสารานุกรมสมุนไพรไทย-จีน ที่ใช้บ่อยในประเทศไทย. หน้า 474.
- เพ็ญนภา ทรัพย์เจริญ และคณะ. 2547. ผักพื้นบ้านภาคใต้. พิมพ์ครั้งที่ 2. ศูนย์พัฒนาตำราการแพทย์แผนไทย. นนทบุรี. ISBN 974-92580-5-3
- ดร.นิจศิริ เรืองรังษี, ธวัชชัย มังคละคุปต์. “ระย่อม (Ra Yom)”. หนังสือสมุนไพรไทย เล่ม 1. หน้า 257.
- ดร.วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม. “ระย่อม”. หนังสือพจนานุกรมสมุนไพรไทย, ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 5. หน้า 672-673.
- ระย่อมน้อย.กลุ่มยาลดความดันโลหิตสูง,สรรพคุณสมุนไพร 200 ชนิด.โครงการอนุรักษ์พันธุ์กรรมพันธุ์กรรมพืชอันเนื่องมากจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารีฯ (ออนไลน์).เข้าถึงได้จาก http://www.rspg.or.th/plants_data/herbs/herbs_16_1.htm.