ข้าวเม่านก ประโยชน์ดีๆ สรรพคุณเด่นๆ และข้อมูลงานวิจัย
ข้าวเม่านก งานวิจัยและสรรพคุณ 31 ข้อ
ชื่อสมุนไพร ข้าวเม่านก
ชื่ออื่นๆ/ชื่อท้องถิ่น มะแฮะนก, หญ้าคอตุง (ภาคเหนือ), คอกิ่ว, หนอนหน่าย, หนอนกิ่ว, ตานคอม้า (ภาคกลาง), ขี้กะตืด, ขี้ตุดแป (ภาคอีสาน), หน่อเจ๊าะบิ๊ค่อ, นองูบิ๊ (กะเหรี่ยง)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Tadegahi triquetrum (L.) H. Ohashi
ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Desmodium triquetrum (L.) Dc.
วงศ์ FABACEAE-FABOIDEAE
ถิ่นกำเนิดข้าวเม่านก
ข้าวเม่านก จัดเป็นพืชในวงศ์ถั่ว (FABOIDEAE) ที่มีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมในเขตร้อนของทวีปเอเชีย โดยมีเขตการกระจายพันธุ์ตั้งแต่ทางตอนใต้ของประเทศจีน เช่นในมณฑลกวางสี กวางตุ้ง ไห่หนาน ไปจนถึงภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ไทย ลาว กัมพูชา เวียดนาม ภูมิภาคเอเชียใต้ ในอินเดีย ศรีลังกา ไปจนถึงออสเตรเลียตอนเหนือ สำหรับในประเทศไทยสามารถพบข้าวเม่านก ได้ทั่วทุกภาคของประเทศบริเวณที่รกร้างว่างเปล่า หรือ ตามป่าเบญจพรรณ ป่าดิบแล้ง บริเวณสองข้างทานและตามไหล่เขาในภาคต่างๆ ที่มีระดับความสูง 100-1,000 เมตร จากระดับน้ำทะเล
ประโยชน์และสรรพคุณข้าวเม่านก
- ใช้แก้ไข้
- แก้ร้อนใน
- รักษาปอดไม่ดี
- ใช้ฆ่าพยาธิ
- ใช้ขับปัสสาวะ
- แก้ริดสีดวงทวาร
- แก้พิษ เบื่อพยาธิ
- แก้โรคตานซาง
- แก้อาการผอมเหลือง
- ใช้แก้ไข้มาลาเรีย (ไข้ป่า)
- แก้อาการเจ็บท้อง ปวดท้อง ท้องอืด มีลมในท้อง
- แก้อาหารไม่ย่อย
- แก้อาหารเป็นพิษ
- รักษาโรคกระเพาะอาหาร
- รักษาโรคทางเดินปัสสาวะ
- ช่วยขับนิ่ว ในกระเพาะปัสสาวะ
- แก้โรคตับ ตับอักเสบ
- แก้ดีซ่าน
- ช่วยบำรุงไต
- ช่วยบำรุงร่างกาย
- แก้อาการอ่อนเพลีย
- ช่วยให้เลือดลมเดินสะดวก
- แก้อาการไอเรื้อรังและวัณโรค
- ช่วยรักษาเด็กเป็นหวัด น้ำมูกไหล ไซนัสอักเสบ
- ช่วยรักษาอาการเหม็นในหูและโพรงจมูก
- ช่วยรักษาอาการปอดไม่ดี
- แก้ซางในเด็กแก้เด็กผมจ่อยไม่แข็งแรง
- แก้อาการอ่อนเปลี้ยเพลียแรง
- ใช้รักษารังแค หรือ การติดเชื้อบนหนังศีรษะ
- แก้อาการชักกระตุกในเด็ก
- แก้ฝีหนอง
มีการนำส่วนใบของข้าวเม่านกมา ใช้ประโยชน์หลากหลายประการเช่น ในชนบทมีการนำใบเพสลาดของข้าวเม่านก มาใช้รับประทานเป็นผัก โดยนำมาคลุกกับน้ำยำ หรือ นำมาใช้รับประทานคู่กับน้ำพริกต่างๆ และยังมีการใช้ใบสดใช้ตำพอกแผลวัว ควาย เพื่อหาหนอนในแผลและรักษาแผลมีหนอง ส่วนใบสดที่เป็นใบแก่มีการนำมาหันผสมยาเส้นและปูนขาวม้วนเป็นบุหรี่สูบ

รูปแบบและขนาดวิธีใช้
- ใช้บำรุงร่างกาย บำรุงกำลัง แก้อ่อนเพลีย ทำให้เลือดสะอาด แก้อาการอ่อนเปลี้ยเพลียแรง โดยการนำราก หรือ ทั้งต้นข้าวเม่านกมาเข้า ตำรับยาบำรุง “ยาแฮงสามม้า” ซึ่งจะใช้รากของม้าสามต่อน ม้าแม่ก่ำ และข้าวเม่านก นำมาต้มกิน หรือ ดองกับเหล้าดื่ม
- ใช้แก้ไข้ป่า ไข้มาลาเรีย โดยนำรากข้าวเม่านก ผสมกับรากอัคคีทวาร [(Rotheca serrata (L.) Steane&Mabb.] ต้มกับน้ำดื่ม
- ใช้แก้อาการไอเรื้อรังและวัณโรค โดยนำทั้งต้นข้าวเม่านกมาต้มเคี่ยว ใช้ดื่มวันละ 1 แก้ว เป็นประจำทุกวัน
- ใช้แก้อาการเจ็บท้อง ท้องอืด มีลมในท้อง โดยใช้รากข้าวเม่านกกับรากขี้อัน รากหงอนไก่ รากมาแฟนขาว ต้มกับน้ำดื่ม
- ใช้รักษาปอดไม่ดี โดยใช้ทั้งต้นข้าวเม่านกนำมาต้มกิน ครั้งละ 1 ถ้วย เช้าและเย็น หรือ กินผงจากใบแห้งกับน้ำอุ่นครั้งละ 1 กรัม เข้าและเย็นก็ได้
- ใช้แก้โรคตับ ตับอักเสบ และดีซ่าน ขับปัสสาวะ โดยนำทั้งต้น หรือ รากข้าวเม่านกมาต้มกับน้ำดื่ม
- ใช้รักษารังแค หรือ การติดเชื้อบนหนังศีรษะ โดยใช้ใบแห้งข้าวเม่านก กับใบแห้งของกระดังงา นำมาแช่น้ำมันงา ใช้ทาผมหมักไว้ประมาณ 30 นาที แล้วจึงสระออก
- ใช้แก้ริดสีดวงทวาร แก้โรคตานซาง แก้อาการผอมเหลือง โดยนำใบข้าวเม่านกสดมาต้มกับน้ำดื่ม
ส่วนในศรีลังกา มีการใช้ทั้งต้นเป็นยาขับพยาธิ แก้อาการชักกระตุกในเด็ก แก้ฝีหนอง แก้โรคกระเพาะ โรคทางเดินอาหารและทางเดินปัสสาวะ และแก้ปวดเอวอีกด้วย
ลักษณะทั่วไปของข้าวเม่านก
ข้าวเม่านก จัดเป็นไม้ล้มลุกที่มีความสูง 15-50 เซนติเมตร ลำต้นมีสีน้ำตาลค่อนข้างตรง แตกกิ่งก้านในระดับโดยจะต่ำแตกกิ่งก้านสาขามาก กิ่งก้านมีลักษณะเป็นสันสามเหลี่ยม ยอดและกิ่งอ่อนเป็นสีแดง
ใบข้าวเม่านก เป็นใบประกอบ มีใบย่อยใบเดียวออกเรียงสลับเยื้องๆ กัน ใบข้าวเม่านก มีลักษณะเป็นรูปใบหอก หรือ รูปไข่โคนใบสอบปลายแหลมรี มีขนาดกว้าง 2-4 เซนติเมตร ยาว 8-10 เซนติเมตร ใบมีสีเขียว แผ่นใบด้านบนเรียบ มองเห็นเส้นใบได้ชัดเจนส่วนด้านล่างมีขนเล็กๆ ก้านใบแผ่เป็นปีก
ดอกข้าวเม่านก ออกเป็นช่อแบบช่อกระจะ ช่อดอกข้าวเม่านกมีลักษณะเป็นรูปทรงกระบอก โดยจะออกบริเวณตามซอกใบและที่ปลายกิ่งใน 1 ช่อดอก จะมีดอกย่อยจำนวนมาก ดอกย่อยมีลักษณะเป็นรูปดอกบัว กลีบดอกเป็นสีม่วง
ผลข้าวเม่านก ออกเป็นฝักข้าวเม่านก มีลักษณะเป็นฝักแบบยาวคล้ายฝักถั่วแฮ แต่มีขนาดเล็กกว่า โดยฝักจะเป็นรูปขอบขนาน คอดเป็นข้อ ข้อ 6-8 ข้อ ทั่วทั้งฝักจะมีขนรูปตะขอขึ้นปกคลุมด้านหัวของฝักมีกลีบเลี้ยงติดอยู่ ส่วนท้ายมีรยางค์ 1 เส้นลักษณะโค้งงอ เมื่อฝักยังอ่อนจะมีสีเขียว เมื่อฝักสุกจะเปลี่ยนเป็นสีแดง และเมื่อฝักแห้งจะเป็นสีน้ำตาล แล้วจะแตกออกด้านในข้อมีเมล็ดสีน้ำตาลลักษณะกลมแบนเล็กน้อย ข้อละ 1 เมล็ด


การขยายพันธุ์ข้าวเม่านก
ข้าวเม่านก สามารถขยายพันธุ์ได้โดยการใช้เมล็ด โดยส่วนมากแล้วการขยายพันธุ์ของข้าวเม่านกจะเป็นพันธุ์ตามธรรมชาติ ไม่นิยมนำมาปลูกแต่อย่างใด เนื่องจากข้าวเม่านก ถือเป็นวัชพืชชนิดหนึ่งที่มีการแพร่กระจายพันธุ์ได้รวดเร็ว โดยอาศัยฝักแก่ที่มีเมล็ดแตกออกแล้วเจริญเป็นต้นใหม่ รวมถึงผักของข้าวเม่านก ยังสามารถติดไปกับเสื้อผ้า หรือ ขนสัตว์ต่างๆ แล้วไปหลุดร่วงเจริญเป็นต้นไม้ในพื้นที่ต่างๆได้
องค์ประกอบทางเคมี
มีรายงานผลการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับองค์ประกอบทางเคมี ของสารสกัดจากส่วนต่างๆ ของข้าวเม่านกระบุว่าพบสารออกฤทธิ์ที่สำคัญหลายชนิดอาทิเช่น พบสารฟลาโวนอยด์จากสารสกัดของส่วนรากข้าวเม่านกได้แก่ Baicalein (Flavone) Naringin (Flavanone glycoside) Neohesperidin (Flavanone glycoside) พบสารกลุ่ม ไตรเทอร์พีนอยด์ จากสารสกัดของลำต้นข้าวเม่านก เช่น friedelin, epi-friedelinol, ursolic acid, ilexgenin A, betulinic acid พบสารกลุ่ม สเตอรอยด์ β-sitosterol, daucosterol, stigmasterol, stigmasta-5,22-dien-3-O-β-D-glucopyranoside พบสารกลุ่มฟีนอลิก จากสารสกัดของส่วนเหนือดินของข้าวเม่านก เช่น vanillic acid, protocatechuic acid นอกจากนี้ยังพบน้ำตาลและกรดไขมัน จากส่วนต่างๆ ของข้าวเม่านก อีกเช่น 2-O-methyl-L-chiro-inositol, sucrose, galactitol, roseoside, docosanoic acid และ tadehaginoside A-J เป็นต้น

การศึกษาวิจัยทางเภสัชวิทยาของข้าวเม่านก
มีรายงานผลการศึกษาวิจัยทางเภสัชวิทยาของสารสกัดจากส่วนต่างๆ ของข้าวเม่านกระบุว่า มีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาหลายประการดังนี้
มีรายงานการศึกษาวิจัยฤทธิ์ต้านการอักเสบของสารสกัดเอทานอลจากส่วนใบและทั้งต้นของข้าวเม่านกระบุว่า สามารถลดอาการบวมของอุ้งเท้าหนูที่ถูกกระตุ้นด้วยคาราจีแนนภายใน 3 ชม. เมื่อติดตามปริมาตรอุ้งเท้าทุก 1 ชม. และมีรายงานฤทธิ์การต้านไวรัสตับอักเสบบี ในหลอดทดลองของสารสกัดและสารบริสุทธิ์บางชนิดในกลุ่ม tadehaginosides ที่ได้จากสารสกัดข้าวเม่านก จากส่วนเหนือดินของข้าวเม่านก พบว่าสามารถยับยั้งการหลั่ง HBsAg/HBeAg ในเซลล์ HepG2.2.15. ได้ ส่วนฤทธิ์ปกป้องตับ พบว่าอนุพันธ์ของสารกลุ่ม tadehaginoside ที่พบในสารสกัดเดียวกัน แสดงฤทธิ์ป้องกันตับของหนูทดลองจากการเหนี่ยวนำให้บาดเจ็บ นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าสารพวด condensed tannins ที่พบในสารสกัดจากส่วนเหนือดินของข้าวเม่านก มีฤทธิ์สมานแผลและฆ่าเชื้อโรคได้อีกด้วย
การศึกษาวิจัยทางพิษวิทยาของข้าวเม่านก
มีรายงานการศึกษาวิจัยความเป็นพิษเฉียบพลัน ในหนูถีบจักร ของสารสกัดเอทานอลทั้งต้นของข้าวเม่านก เมื่อป้อนทางปากให้แก่หนูทดลองในขนาด 2.5 กรัม/กก. พบว่าไม่แสดงอาการเป็นพิษ แต่ในขนาดที่สูงกว่า 5 กรัม/กก. พบว่าเริ่มมีสัญญาณเป็นพิษ
ข้อแนะนำและข้อควรระวัง
ผู้ป่วยมะเร็งและก้อนเนื้อที่ไวต่อฮอร์โมนควรหลีกเลี่ยง การใช้ข้าวเม่านกเป็นสมุนไพร ในรูปแบบการรับประทาน เนื่องจากพืชวงศ์ถั่วมี “ไอโซฟลาโวนอยด์” หลายชนิดที่มีภาวะฮอร์โมนไว (estrogen-sensitive) มีรายงานว่าสารบางชนิดในข้าวเม่านก มีสัญญาณเสริมการนำกลูโคสเข้าเซลล์ดังนั้น ผู้ใช้ยาลดน้ำตาลควรระมัดระวังในการใช้ เนื่องจากอาจทำให้เกิดภาวะน้ำตาลต่ำ (hypoglycemia) รวมถึงผู้ที่แพ้พืชในวงศ์ถั่ว (FABACEAE) ไม่ควรใช้ข้าวเม่านกเป็นสมุนไพรโดยเฉพาะในรูปแบบการรับประทาน เนื่องจากเป็นพืชในวงศ์เดียวกัน
เอกสารอ้างอิง ข้าวเม่านก
- เต็ม สมิตินันทน์. ชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย. ส่วนพฤกษศาสตร์ป่าไม้. สำนักวิชาการป่าไม้กรมป่าไม้. กรุงเทพฯ.
- ข้าวเม่านก. หนังสือสมุนไพรบ้านล้านนา. ภาควิชาเภสัชพฤกษศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล. หน้า 207.
- ข้าวเม่านก ยาสมุนไพรไม่ใช้อาหารของนก. สมุนไพรเพื่อสุขภาพ. โครงการสมุนไพร เพื่อการพึ่งพาตนเอง. มูลนิธิสุขภาพไทย.
- Tang, H.-X., Sheng, W.-B., Liu, X.-Y., Cui, P.-W., Gong, L.-M., Xie, Q.-L., Wang, W.-M., Li, B., Wang, W., & Zhou, X.-D. (2022). The traditional ethnic herb Tadehagi triquetrum from China: A review of its phytochemistry and pharmacological activities. Pharmaceutical Biology, 60(1), 774-784
- Nguyen, T. T., et al. (2023). Chemical composition and biological activities of essential oils of Tadehagi triquetrum. Molecules, 28(20), 6995. 995
- Zhang, X., Cheng, Y., et al. (2016). Tadehaginosides A-J from Tadehagi triquetrum. Journal of Natural Products, 79(9), 2357-2366.
- Flora of China Editorial Committee. (2010). Flora of China (Vol. 10): Tadehagi triquetrum entry (Fabaceae). Science Press & Missouri Botanical Garden Press.
- Xiang, L.-Y., Xing, D.-M., Wang, W., Wang, R.-Q., Ding, Y., & Du, L.-J. (2005). Screening for biological activity of compounds from Tadehagi triquetrum. Journal of Agricultural and Food Chemistry, 53(24), 9472-9475.
