กินกุ้งน้อย ประโยชน์ดีๆ สรรพคุณเด่นๆ และข้อมูลงานวิจัย

กินกุ้งน้อย งานวิจัยและสรรพคุณ 21 ข้อ

ชื่อสมุนไพร กินกุ้งน้อย
ชื่ออื่นๆ/ชื่อท้องถิ่น ผักปลาบ, ผักปลาบใบเล็ก (ทั่วไป, ภาคกลาง), หญ้าเลินแดง (ภาคใต้), สุ่ยจู่เฉา, หงเหมาเฉ่า (จีน)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Murdannia nudiflora (L.) Brenan
ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Murdannia malabaricum (L.) Santapan
ชื่อสามัญ Common spiderwort
วงศ์ COMMELINACEAE


ถิ่นกำเนิดกินกุ้งน้อย

กินกุ้งน้อย จัดเป็นพืชในวงศ์ผักปลาย (COMMELINACEAE) ที่มีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมในเขตร้อนขึ้นของทวีปเอเชียไปจนถึงทวีปแอฟริกาต่อมาจึงได้มีการกระจายพันธุ์ไปยังทวีปอเมริกาใต้รวมถึงเขตกึ่งร้อนชื้นต่างๆ ของโลก สำหรับในประเทศไทยสามารถพบกินกุ้งน้อย ได้ทั่วทุกภาคของประเทศบริเวณที่ชื้นทั่วไป ในนาข้าว ริมคูคลอง หรือ ตามสนามหญ้าที่ค่อนข้างชื้นแฉะ ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลจนถึง 1,000 เมตร


ประโยชน์และสรรพคุณกินกุ้งน้อย

  1. แก้ไข้
  2. ช่วยขับพิษร้อน ถอนพิษไข้
  3. ช่วยขับพิษลำไส้
  4. ช่วยขับพิษร้อนในปอด
  5. แก้ไอเป็นเลือด
  6. แก้ลำไส้อักเสบ
  7. แก้เจ็บคอ
  8. แก้คออักเสบ
  9. แก้บิด
  10. แก้ปัสสาวะกระปริบกระปรอย
  11. แก้ปวด
  12. ช่วยลดบวม
  13. แก้แผลเรื้อรัง
  14. แก้โรคเรื้อน 
  15. ใช้รักษาฝีที่เต้านม
  16. ใช้ล้างแผลที่เรื้อรัง
  17. ลดอาหารบวม
  18. แก้เป็นหมัน
  19. แก้ทอนซิลอักเสบ
  20. ใช้แก้แมลงสัตว์กัดต่อย
  21. แก้จุดด่างดำ

           นอกจากนี้ในประเทศไต้หวันใช้เป็นยาลดไข้ ลดอาหารบวม ในมาเลเซียและอินโดนีเซีย ใช้รากกินกุ้งน้อย ลดไข้ในเด็ก ใช้ใบกินกุ้งน้อยพอกแก้ปวด ในปาปัวนิวกินีใช้ทั้งต้นแก้บิดและแก้เป็นหมัน

           กินกุ้งน้อย ถูกนำมาใช้รับประทานเป็นผักโดยมีการนำยอดอ่อนมาใช้รับประทานสดแกล้มกับน้ำพริก รวมถึงนำมาใช้ประกอบอาหารอีกหลายประเภท นอกจากนี้ยังมีการนำมาใช้เป็นอาหารสัตว์ เช่น โค กระบือ อีกด้วย


รูปแบบและขนาดวิธีใช้

  • ใช้ขับพิษร้อนถอนพิษไข้ ขับพิษในปอดและลำไส้ แก้ไอเป็นเลือด แก้ลำไส้อักเสบ แก้เจ็บคอ คออักเสบ แก้ทอนซิลอักเสบ แก้บิด ปัสสาวะกะปริบกะปรอย แก้ปวด ลดบวม โดยนำทั้งต้นกินกุ้งน้อยประมาณ 20-40 กรัม มารับประทานสด หรือ นำมาต้มกับน้ำดื่มก็ได้
  • ใช้แก้บิด แก้ปัสสาวะกะปริบกะปรอย โดยนำใบกินกุ้งน้อย ต้นสดให้ใช้ครั้งละ 20-40 กรัม ส่วนต้นแห้งให้ใช้ครั้งละ 12-20 กรัม ต้ม
  • ใช้แก้แมลงสัตว์กัดต่อย แก้จุดด่างดำ โดยนำใบกินกุ้งน้อย สดมาตำพอกบริเวณที่เป็น 
  • รากมาต้มกับน้ำดื่มใช้แก้จุดด่างดำที่เป็นจากเชื้อรา โดยนำใบกินกุ้งน้อยมาย่างไฟให้ร้อน แล้วนำมาถูบริเวณที่เป็น
  • ใช้ล้างแผลที่เรื้อรัง โดยนำทั้งต้นกินกุ้งน้อยมาตำให้ละเอียดคั้นเอาน้ำล้างบริเวณที่เป็น
  • ใช้รักษาฝีที่เต้านม โดยใช้ใบกินกุ้งน้อยสดนำมาตำพอกบริเวณที่เป็น


ลักษณะทั่วไปของกินกุ้งน้อย

กินกุ้งน้อย จัดเป็นไม้ล้มลุกอายุ 1-2 ปี ลำต้นกึ่งตั้งกึ่งเลื้อยมีความสูง 15-55 เซนติเมตร ลำต้นเรียบเกลี้ยง เนื้ออ่อน มีขนาดเล็กเรียวทอดนอน ตามพื้นดินแล้วดอกเป็นกอๆ เล็กๆ บริเวณลำต้นจะแตกรากฝอยตามข้อ มีขนขึ้นทั่วไป

           ใบกินกุ้งน้อย เป็นใบเดียวออกแบบเรียงสลับโดยจะออกเรียงเป็นคู่ ใบมีลักษณะเป็นรูปขอบขนาน หรือ รูปใบหอกแคบ 0.3-1 เซนติเมตร ยาว 54.8-17.4 เซนติเมตร ปลายใบเรียวแหลม ขอบใบเรียบ ผิวใบค่อนข้างเกลี้ยง หน้าใบเป็นสีเขียวเข้มหลังใบเป็นสีม่วงมีกาบใบยาว 1.2-1.5 เซนติเมตร มีขนขึ้นปกคลุม

           ดอกกินกุ้งน้อย ออกเป็นช่อกระจุกบริเวณปลายยอดและซอกใบ โดยช่อดอกจะแตกแขนงเป็นช่อย่อย 2-6 ช่อ และในแต่ละช่อจะมีดอกย่อย 1-3 ดอก ดอกย่อยมีสีม่วง หรือ สีฟ้าอ่อน มีกลีบดอกขนาดเล็ก 3 กลีบ กว้าง 1 มิลลิเมตร ยาว 2-3 มิลลิเมตร ตรงกลางดอกมีเกสรเพศผู้ 6 อัน ซึ่ง 4 อัน จะเป็นหมันและจะมีสีเหลืองสด ส่วนอีก 2 อัน ไม่เป็นหมันจะมีสีม่วงและมีรังไข่ 3 ช่อง และยังมีกลีบเลี้ยงสีม่วง 3 กลีบ ปลายกลีบเลี้ยงเป็นสีแดงเข้ม โดยกลีบดอกมีสีสดกว่ากลีบเลี้ยง

           ผลกินกุ้งน้อย เป็นผลแห้งลักษณะเป็นรูปรีคล้ายรูปปลายผลเป็นติ่งแหลม หรือ อาจค่อนข้างกลมมีขนาดกว้าง 2-3 มิลลิเมตร ยาว 2.5-5 มิลลิเมตร ผลเป็นสีเขียวอ่อน เมื่อผลแก่จะแห้งและแตกออกเป็น 3 พู ในแต่ละพูจะมีเมล็ด สีน้ำตาลเข้ม 2 เมล็ด โดยเมล็ดจะมี ผิวขรุขระเป็นร่องและเป็นหลุม

กินกุ้งน้อย
กินกุ้งน้อย

การขยายพันธุ์กินกุ้งน้อย

กินกุ้งน้อย สามารถขยายพันธุ์ได้โดยการใช้เมล็ดและใช้ไหลมาปลูก แต่เนื่องจากกินกุ้งน้อยมีอัตราการกระจายพันธุ์ที่รวดเร็วและมีการขยายพันธุ์ในธรรมชาติอย่างรวดเร็ว จึงถูกจัดเป็นวัชพืช ชนิดหนึ่งดังนั้นในปัจจุบันจึงไม่พบการนำกินกุ้งน้อย มาปลูกแต่อย่างใด ส่วนการขยายพันธุ์ของกินกุ้งน้อยจะพบการขยายพันธุ์ในธรรมชาติเท่านั้น ทั้งนี้กินกุ้งน้อยสามารถขยายพันธุ์ได้ดีในที่ชื้นแฉะ หรือ ที่ที่มีความชื้นสูง สามารถทนต่อน้ำขังและทนแล้งได้ดี


องค์ประกอบทางเคมี

มีรายงานผลการศึกษาวิจัย เกี่ยวกับองค์ประกอบทางเคมีของทุนส่วนของกินกุ้งน้อยระบุว่า พบสารออกฤทธิ์ที่สำคัญหลายชนิดอาทิเช่น สารกลุ่ม Flavonoids, Tannins, Alkaloids, Saponins, Coumarins, Sterols, Carotenes นอกจากนี้จากการวิเคราะห์สารสกัดกินกุ้งน้อยจากทั้งต้นของกินกุ้งน้อย ด้วยวิธี Gas Chromatography-Mass Spectrometry (GC-MS) ยังระบุว่าพบสารออกฤทธิ์ที่สำคัญหลายชนิดดังนี้ Phytol, Muscimol, Eugenol, Lauric acid, Ethyl palmitate, Palmitic acid, 2,4-di-tert-butylphenol, n-Decanoic acid, Linoleic acid, Indole และ 2-Methoxy-4-vinylphenol เป็นต้น


การศึกษาวิจัยทางเภสัชวิทยาของกินกุ้งน้อย

มีรายงานผลการศึกษาวิจัยทางเภสัชวิทยาของสารสกัดกินกุ้งน้อยทั้งต้นของกินกุ้งน้อย ระบุว่ามีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาหลายประการอาทิเช่น

           ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ มีรายงานการศึกษาวิจัยพบว่าสารสกัดกินกุ้งน้อย จากทั้งต้นของกินกุ้งน้อย สามารถปกป้องตับจากความเสียหายที่เกิดจากคาร์บอดเตตระคลอไรด์ (CCI4) โดยเข้าไปลดความเครียดออกซิเดชั่นและการอักเสบในเนื้อเยื่อตับของหนูทดลอง

           ฤทธิ์ระงับปวด มีรายงานการทดลองในหนูขาวแสดงให้เห็นว่า สารสกัดเอทานอลจากทั้งต้นของกินกุ้งน้อย มีฤทธิ์ระงับปวดอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับยามอร์ฟีนซัลเฟต ซึ่งเป็นยามาตรฐานที่ใช้ในการทดลอง

           ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ มีรายงานการศึกษาวิจัยพบว่า สารสกัดจากทั้งต้นของกินกุ้งน้อย มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ โดยเฉพาะสารสกัดเมทานอลและส่วนสกัดที่ได้จาก n-บิวทานอลและเอทิลอะซิเดต ซึ่งมีปริมาณโพลีฟีนอลและฟลาโวนอยด์สูง


การศึกษาวิจัยทางพิษวิทยาของกินกุ้งน้อย

มีรายงานผลการศึกษาวิจัยทางพิษวิทยาของสารสกัดทั้งต้นของกินกุ้งน้อย ระบุจากการประเมินความเป็นพิษของสารสกัดทั้งต้นของกินกุ้งน้อย พบว่ามีความเป็นพิษต่ำ โดยมีค่าที่ทำให้สัตว์ทดลองครึ่งหนึ่ง (LC50) เท่ากับ 158.638 µg/ml ซึ่งสูงกว่าค่าของสารมาตรฐานที่ใช้ในการทดลองอย่างมีนัยสำคัญ


ข้อแนะนำและข้อควรระวัง

ถึงแม้ว่าจะมีการศึกษาวิจัยทางพิษวิทยาระบุว่ากินกุ้งน้อยมีความเป็นพิษต่ำ แต่อย่างไรก็ตามในการใช้กินกุ้งน้อยเป็นสมุนไพรในการบำบัดรักษาโรคนั้น ก็ควรระมัดระวังในการใช้เช่นเดียวกันกับการใช้สมุนไพรชนิดอื่นๆ โดยควรใช้ในขนาดและปริมาณที่เหมาะสมที่ได้ระบุไว้ในตำรับตำรายาต่างๆ ไม่ควรใช้ในขนาดและปริมาณที่มากจนเกินไป หรือ ใช้ต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลานานจนเกินไป เพราะอาจส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวได้


เอกสารอ้างอิง กินกุ้งน้อย
  1. ดร.วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม. กินกุ้งน้อย. หนังสือพจนานุกรมสมุนไพรไทย, ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 3. หน้า 64-65.
  2. ราชบัณฑิตยสถาน. 2538. อนุกรมวิธานพืช อักษร ก.กรุงเทพมหานคร. เพื่อนพิมพ์.
  3. วิทยา บุญวรพัฒน์. กินกุ้งน้อย. หนังสือสารานุกรมสมุนไพรไทย-จีน ที่ใช้บ่อยในประเทศไทย. หน้า 86.
  4. ชยันต์ พิเชียรสุนทร, ศุภชัย ติยวรนันท์ และ วิเชียร จีรวงศ์. คู่มือเภสัชกรรมแผนไทยเล่ม 6 เภสัชกรรม. กทม. อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง. 2555. หน้า 90-91
  5. Schumann, Karl Moritz (1895). "Commelinaceae". ใน Engler, Adolf (บ.ก.). Die Pflanzenwelt Ost-Afrikas und der Nachbargebiete (ภาษาเยอรมัน). Vol. C. Berlin: D. Reimer. pp. 134-137.
  6. Nguyen, T. T. L., & Le, H. T. (2020). Phytochemical screening and GC-MS analysis of Murdannia nudiflora (L.) Brenan extract. Journal of Science, VNU-HCM, 36(2), 12-20.
  7. Clarke, C. B. (1881). "Commelinaceae". ใน Alphonso; Casimir de Candolle (บ.ก.). Monographiae Phanerogamarum Prodromi (ภาษาละติน). Vol. 3. Paris: G. Masson. pp. 113-324.
  8. Vu, N. T., & Le, Q. D. (2019). Identification of fatty acid derivatives and phenolic compounds from Murdannia nudiflora using GC-MS. Vietnam National University Science Journal: Natural Sciences and Technology, 35(1), 70-76.
  9. Tran, Q. A., & Pham, D. T. (2019). Study on chemical constituents of Murdannia nudiflora (L.) Brenan using GC-MS method. Vietnam Journal of Chemistry, 57(3E1), 83-90.
  10. Devi, M. V., & Rao, K. N. (2016). Preliminary phytochemical screening and pharmacological activities of Murdannia nudiflora. Asian Journal of Pharmaceutical and Clinical Research, 9(5), 230-235.
  11. Nguyen, H. T., & Pham, H. T. (2021). Biological evaluation and antioxidant properties of Murdannia nudiflora extract. Science & Technology Development Journal, 24(2), 55-62.
  12. Panda A, Misra MK.Ethnomedicinal survey of some wetland plants of South Orissa their conservation,Ind. J. Trad, Knowl. 2001:296-303.
  13. Rani, A. S., & Sravanthi, B. (2018). GC-MS analysis of bioactive compounds in the methanol extract of Murdannia nudiflora. International Journal of Pharmaceutical Sciences and Research, 9(10), 4184-4191.