กวาวเครือขาว อัญมณีแห่งพงไพร

กวาวเครือขาว อัญมณีแห่งพงไพร

หากทุกท่านรู้จักกวาวเครือแดงแล้ว เชื่อว่า ชื่อของกวาวเครือขาว ก็คงเป็นที่รู้จักของทุกท่านเป็นอย่างดี เพราะสมุนไพรทั้งกวาวเครือขาวและกวาวเครือแดงนี้ เรียกได้ว่ามีลักษณะคล้ายๆกัน คือ เป็นเถาพาดหรือพันกับต้นไม้ใหญ่มีส่วนหัวอยู่ใต้ดินเหมือนกัน และที่สำคัญเป็นสมุนไพรที่พบครั้งแรกในป่าเช่นเดียวกันอีกด้วย อีกทั้งยังมีประวัติการค้นพบที่ยาวนานมาเกือบ 100 ปี เลยทีเดียว ในตอนนี้จะขอกล่าวถึงกวาวเครือขาว สมุนไพรที่สตรีนิยมนำมาบำรุงฮอร์โมนเพศ หรือนำมาใช้ประโยชน์ในหลายๆด้าน เฉกเช่นเดียวกับสมุนไพรหลายๆตัว อาทิ ว่านชักมดลูก,โกฐเชียง(หรือตังกุย) โดย กวาวเครือขาวนั้น ได้มีการใช้เป็นยาสมุนไพรมานานแล้วในพม่าและทางภาคเหนือของไทย โดยใช้ตามภูมิปัญญาพื้นถิ่น แต่โลกเริ่มรู้จักกวาวเครือขาว เนื่องจากหลวงอนุสารสุนทร (สุ้นฮี้ ชัวย่งเส็ง) ได้จักทำหนังสือ “ตำรายาหัวกวาวเครือ” ขึ้นในปี พ.ศ.2474 โดยในตำรานั้น หลวงอนุสารสุนทรได้ บรรยายลักษณะคร่าวๆของกวาวเครือขาวไว้ว่า หัวอยู่ใต้ดินมีขนาดใหญ่ มีหลายหัวต่อต้น และยังมีกวาวเครือมากกว่า 1 ชนิด ส่วนที่จะนำมาทำยาต้องมีลักษณะใบใหญ่ๆ นั่นเอง จึงทำให้คนไทยและคนทั่วโลกได้รู้จักกวาวเครือขาว ที่กล่าวมานั้นคือประวัติคร่าวๆ ของกวาวเครือขาว ทีนี้เราจะมากล่าวถึงลักษณะของกวาวเครือขาว ในสมัยปัจจุบันกันครับ โดยกวาวเครือขาวที่มีการศึกษาวิจัยในปัจจุบันนั้นได้มีการบรรยายลักษณะทั่วไปไว้ดังนี้  กวาวเครือขาวมีลักษณะเป็นไม้เถาเนื้อแข็งขนาดใหญ่ เลื้อยพันขึ้นบนไม้ยืนต้น เป็นไม้ผลัดใบ ลำต้นเกลี้ยงยาว 1-5 เมตร ใบเป็นใบย่อย 3 ใบ ปลายใบแหลม ด้านล่างของใบมีขนสั้น ประปราย ดอกจะออกในฤดูผลัดใบ เป็นช่อยาว 30 ซม. โดยเป็นดอกสมบูรณ์เพศ คือ มีทั้งเพศผู้และเพศเมียในดอกเดียวกัน ดอกมีสีฟ้าอมม่วงอาจเข้มเป็นสีน้ำเงิน ฝักของกวาวเครือขาว ลักษณะแบนมีขนสั้นๆประปราย เมื่อแก่ฝักจะเป็นสีน้ำตาล เมล็ดในฝักลักษณะกลมๆ เมล็ดแก่มีสีเขียวม่วงหรือสีน้ำตาลม่วง หัวของกวาวเครือขาวคล้ายมันแกว กลม มีหลายขนาดขึ้นอยู่ตามอายุ ซึ่งหัวที่มีอายุมากจะมีขนาดใหญ่ อาจมีน้ำหนักมากถึง 30 กก. เลยทีเดียว เมื่อลองถากผิวของหัวกวาวเครือขาว จะมียางสีขาวๆ คล้ายน้ำนมออกมาก หรือสมุนไพรหลายๆชนิดนั้น มักจะพบครั้งแรกในป่าและได้มีการนำมาใช้ตามภูมิปัญญาวิถีชนบท จนเวลาล่วงเลยไปจึงมีการนำมาศึกษาวิจัยจนพัฒนามาเป็นสมุนไพรที่มีคุณค่ามากมายมหาศาลในปัจจุบัน หากจะกล่าวว่าธรรมชาติบันดาลสมุนไพรมาให้มนุษย์ใช้ก็คงไม่ผิด แต่ในปัจจุบันมนุษย์ได้ทำลายแหล่งที่ให้กำเนิดสมุนไพรอันมีค่าเหล่านั้น แล้วคำถามที่ตามมาคือ เมื่อป่าไม้ไม่มีเหลือแล้วจะยังมีสมุนไพรให้เราได้ใช้กันอีกไหม นั่นคือปัญหาที่เราทุกคนต้องช่วยกันตอบ ไม่แน่ กวาวเครือขาวอาจเป็น”อัญมณีแห่งพงไพร” รุ่นท้ายๆที่ธรรมชาติจะมอบให้เราก็เป็นได้

 

 

กวาวเครือขาว กวาวเครือแดง กระชายดำ