ชุมเห็ดจีน ประโยชน์ดีๆ สรรพคุณเด่นๆ และข้อมูลงานวิจัย
ชุมเห็ดจีน งานวิจัยและสรรพคุณ 14 ข้อ
ชื่อสมุนไพร ชุมเห็ดจีน
ชื่ออื่นๆ/ชื่อท้องถิ่น ชุมเห็ดใหญ่ (ไทย, ทั่วไป), เจื่อหมิงจื่อ, เจี๋ยวหมิงจื่อ, ก๊วกเหม่งจี้ (จีน)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Senna obtusifolia (L.) H.S. Irwin & Barneby
ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Cassia obtustfolia Linn.
ชื่อสามัญ Chinese senna, Sicklepod
วงศ์ FABACEAE-CAESALPINIODEAE
ถิ่นกำเนิดชุมเห็ดจีน
ชุดเห็ดจีน จัดเป็นพืชในวงศ์ ถั่ว (FABACEAE) ที่อยู่ในวงศ์ย่อย ราชพฤกษ์ (CAESALPINIODEAE) ที่มีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมในเขตร้อนของทวีปอเมริกากลางและอเมริกาใต้ เช่นใน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา เม็กซิโก คิวบา ไปจนถึงทางตอนเหนือของทวีปอเมริกาใต้ เช่นใน เวเนซุเอลา ซูรินาเม โคลัมเบีย และบราซิล ส่วนในประเทศไทยปัจจุบันพบชุดเห็ดจีน ได้ทั่วทุกภาคของประเทศ บริเวณที่รกร้างว่างเปล่า สองข้างทางหรือตามชายป่าต่างๆ
ประโยชน์และสรรพคุณชุมเห็ดจีน
- ใช้ลดความดันโลหิต
- แก้อาการปวดศีรษะเนื่องจากความดันโลหิตสูง
- ใช้บำรุงสายตา
- ใช้เป็นยาระบาย
- แก้ท้องผูก
- แก้อักเสบ
- แก้ตับแข็ง
- แก้ "พุงโล" หรือ "พุงยุ้ย" หรือ "พุงป่อง"
- แก้ฝีหนองทั้งภายในและภายนอก
- แก้ตาแดง
- แก้ตาเจ็บ
- แก้ตาอักเสบ
- แก้ตาต้อทำให้ตาสว่าง
- แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ
ในประเทศจีนมีการนำเมล็ดชุมเห็นจีนมาคั่วแล้วต้มในน้ำ ใช้ดื่มแทนชาและในบางแห่งของจีนยังมีการนำเมล็ดมาคั่วแล้วบดใช้ชงเป็นกาแฟ ส่วนในประเทศซูดาน ยังมีการนำใบของชุมเห็ดจีน มาหมักเพื่อทำเป็นอาหารที่เรียกว่า “Kawal” ใช้รับประทานแทนเนื้อสัตว์ซึ่งจะให้โปรตีนสูง
รูปแบบและขนาดวิธีใช้
- ใช้บำรุงสายตาแก้ตาเจ็บ ตาอักเสบ แก้ท้องผูก ท้องอืด ใช้เป็นยาระบาย แก้ตับอักเสบ ตับแข็ง พุงโล โดยนำเมล็ดชุมเห็นจีนมาคั่วให้เกรียม หรือ คั่วจนกว่าเปลือกของเมล็ดจะแตกออก แล้วนำมาทุบให้แหลก หรือ บดให้เป็นผง ใช้รับประทานครั้งละ 7-15 กรัม หรือ จะนำมาต้มกับน้ำดื่ม
- ใช้เป็นยาระบาย แก้ท้องผูก บำรุงสายตา แก้ตาแดง ตาต้อ ตาอักเสบ โดยนำรากและใบมาชุมเห็นจีน ต้มกับน้ำดื่ม
- ใช้แก้ฝีหนองภายนอก โดยนำเมล็ดชุมเห็นจีนมาคั่วบดให้เป็นผง ใช้โรยแผลหนองที่เป็น
ลักษณะทั่วไปของชุมเห็ดจีน
ชุมเห็ดจีน จัดเป็นไม้พุ่มเนื้ออ่อนอายุ 1 ปี ลำต้นสูงได้ 0.5-2 เมตร ลำต้นกิ่งอ่อนมีสีน้ำตาลเทาผิวลำต้นเกลี้ยงเกลา เมื่อต้นชุมเห็ดจีน ยังอ่อนจะมีสันตามยาว ทั้งลำต้นและกิ่งก้าน จะมีขนขึ้นปกคลุมกิ่งก้านแข็ง
ใบชุมเห็ดจีน เป็นใบประกอบแบบขนนกก้านช่อใบมีความยาว 2.5-4 เซนติเมตร โดยใน 1 ช่อใบ จะมีใบย่อยประมาณ 2-4 คู่ ใบย่อยมีลักษณะเป็นรูปไข่กลับกว้าง 0.8-3 เซนติเมตร ยาว 1.5-6.5 เซนติเมตร โคนใบมน หรือ เป็นรูปลิ่มมนไม่สมมาตรปลายใบมนขอบใบเรียบ แผ่นใบสีเขียวเข้มบางเรียบไม่มีขนแต่เมื่อใบยังอ่อนจะมีขนขึ้นปกคลุมท้องใบมีสีอ่อนกว่างหน้าใบและตรงกลางใบย่อยที่ติดเชื่อมเรียงคู่กันนั้นจะมีตุ่มตาร่องน้ำหนึ่งคู่แบบแหลมๆ
ดอกชุมเห็ดจีน ออกเป็นช่อบริเวณซอกใบ โดยจะออก 1-2 ดอก ดอกชุมเห็ดจีน มีสีเหลืองสดกลีบดอกมี 5 กลีบ เป็นรูปไข่กลับยาว 1-2 เซนติเมตร มีเกสรเพศผู้ 1 อัน และจะมีใบประดับเรียงเป็นเส้นตรงยาว 3-4 มิลลิเมตร ดอกย่อยมีก้านดอกยาว 1-2.3 เซนติเมตร
ผลชุมเห็ดจีน อกเป็นฝัก โดยฝักจะมีสีเขียวยาวและเป็นเหลี่ยม ปลายแหลมคล้ายรูปเคียว เมื่อฝักแก่จะเป็นสีน้ำตาลเข้มและจะแตกออกยาว 15-24 เซนติเมตร และมีก้านฝักยาว 2.4 เซนติเมตร ภายในฝักมีเมล็ดมีน้ำตามอมเขียว ลักษณะเป็นเหลี่ยมจำนวนมาก โดยเมล็ดจะมีขนาด 3-4 มิลลิเมตร ผิวเรียบเป็นมัน ด้านข้างของเมล็ดมีร่อง
องค์ประกอบทางเคมี
มีรายงานการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับองค์ประกอบทางเคมีของเมล็ดและส่วนใบของชุมเห็ดจีน ระบุว่าพบสารออกฤทธิ์ที่สำคัญและตำรายาจีนได้ระบุถึงสรรพคุณเอาไว้ดังนี้
ในเมล็ดชุมเห็ดจีน พบสารกลุ่ม Anthraquinones ได้แก่ emodin, aloe-emodin, chrysophanol, rhein, physcion, alaternin, obtusifolin, aurantio-obtusin, chryso-obtusin และ questin รวมถึงสารกลุ่ม Naphthopyrone และ naphthalene glycosides เช่น cassiasides B2, C2, gluco-aurantio-obtusin, gluco-obtusifolin, toralactone glycosides, lactone, Xanthone และ Rhein Kaempferol-3-diglucoside เป็นต้นส่วนในใบชุมเห็ดจีนพบสารกลุ่ม flavonoids และ phenolics เช่น rutin, quercetin, kaempferol, catechin, ferulic acid, coumaric acid, gallic acid และ caffeic acid เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าส่วนรากชุมเห็ดจีนยังพบสาร Leucopeiargondin-3-O-a-l-rhannopyranoside อีกด้วย
การศึกษาวิจัยทางเภสัชวิทยาของชุมเห็ดจีน
มีรายงานผลการศึกษาวิจัยทางเภสัชวิทยาของสารสกัดชุมเห็ดจีนจากส่วนต่างๆ ของชุมเห็ดจีน ระบุว่ามีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาหลายประการดังนี้
ฤทธิ์ต้านอักเสบ มีรายงานผลการศึกษาวิจัยระบุว่า สาร Obtusifolin ที่พบในสารสกัดชุมเห็ดจีน จากส่วนเมล็ดของชุมเห็ดจีน มีฤทธิ์ลดการแสดงออกของเอนไซม์ MMP3, MMP13, COX2, P-P65 ที่เป็นเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบโดยผ่านยับยั้งการส่งสัญญาณผ่านทาง NF-κB pathway ในหนูทดลอง
ฤทธิ์ลดเบาหวาน มีรายงานว่าสารสกัดชุมเห็ดจีนจากเมล็ดและใบของชุมเห็ดจีนมีฤทธิ์ยับยั้ง เอนไซม์ α-amylase และเอนไซม์ lipase อีกทั้งยังสามารถจับกรดน้ำดี จึงสามารถลดการดูดซึมคอเลสเตอรอลในหนูทดลองได้
นอกจากนี้สารกลุ่ม Anthraquinones ยังเข้าไปเพิ่มการทำงานของ เอนไซม์ mitochondrial dehydrogenases และเอนไซม์ NADH oxidoreductase ที่เกี่ยวข้องกับการเผาผลาญสารอาหาร เพื่อสร้างพลังงานได้อีกด้วยอีก ทั้งยังมีรายงานการศึกษาวิจัยระบุว่าสารสกัดจากเมล็ดชุมเห็ดจีน ด้วยแอลกอฮอล์ สามารถยับยั้งเชื้อ Staphelo coccus และ Steptro coccus และเชื้อราบริเวณผิวหนังได้ และยังมีฤทธิ์กระตุ้นมดลูกให้บีบตัวและมีฤทธิ์เป็นยาถ่ายในสัตว์ทดลองได้อีกด้วย
การศึกษาวิจัยทางพิษวิทยาของชุมเห็ดจีน
มีรายงานการศึกษาวิจัยทางพิษวิทยาในหนูทดลองระบุว่า สารสกัดน้ำจากส่วนของเมล็ดชุมเห็ดจีน มีฤทธิ์ทำให้เกิด ความเป็นพิษต่อตับ โดยมีความสัมพันธ์กับโปรตีน cytokines และการส่งสัญญาณผ่าน NF-κB pathway โดยทำให้ค่า TNF-α ที่ควบคุมระบบต่อมไร้ท่อค่า IL-6 ที่เป็นตัวกระตุ้นการอักเสบและค่า IL-1β ที่มีหน้านี้ตอบสนองต่อการอักเสบ เพิ่มขึ้น
ข้อแนะนำและข้อควรระวัง
สตรีมีครรภ์ไม่ควรใช้ชุมเห็ดจีน เป็นยาสมุนไพร โดยเฉพาะในรูปแบบการรับประทานเนื่องจากมีรายงานผลการศึกษาวิจัยระบุว่า มีฤทธิ์ในการบีบมดลูก ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะแท้งบุตรได้ นอกจากนี้ฤทธิ์ในการขับถ่ายของชุมเห็ดจีน จะมีฤทธิ์แรงกว่าชุมเห็ดไทย ดังนั้นจึงควรระมัดระวังในเรื่องของปริมาณการใช้และการหลีกเลี่ยงการใช้ต่อเนื่องเป็นระยะนานจนเกินไป
เอกสารอ้างอิง ชุมเห็ดจีน
- เย็นจิตร เตชะดำรงสิน. คู่มือการใช้สมุนไพรไทย-จีน พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานกิจการโรงพิมพ์องค์การทหาร
- เมตไทย (Medthai) ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นอิสระเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ การรักษาโรค การใช้ยา สมุนไพร แม่และเด็ก ฯลฯ เราร่วมมือกับแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ ด้านเพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและที่สุดหน้าแรก (https://medthai.com/)/ สมุนไพร (Herb) (https://medthai.com/herb/) / ชุมเห็ดจีน
- วิชัย โรควิวัฒน, ชวลิต สันติกิจรุ่งเรือง, เย็นจิตร เตระดำรงสิน (บรรณาธิการ) ตำรับยาจีนที่ใช้บ่อยในประเทศไทย เล่ม 1. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานกิจการโรงพิมพ์องค์การทหารผ่านศึกในพระบรมรารูปถัมภ์, 2550. ผ่านลึกในพระบรมราชูปถัมภ์, 2551
- Nam J. et al. “Obtusifolin…Mouse Osteoarthritis Model”, Pharmaceuticals (Basel). 2021;14(3):249.
- Mohanraj K. & Karthikeyan S. “Phytochemistry & bioactivities of Senna obtusifolia”, Molecules. 2021;26(20):6252.
- Xiong et al. “cisplatin hepatonephrotoxicity & obtusifolin protection”, Naunyn Schmiedebergs Arch Pharmacol. 2025.
- Duke JA. “Emodin larvicidal from Cassia obtusifolia seeds”, J Agric Food Chem. 2003.
- Anonymous. “Toxic anthraquinones…livestock”, World J Pharm Res. 2024.
- Hsu et al. “Antioxidant & anti‑infectious activities of Senna spp.”, Int J Mol Sci. 2022.