ว่านชักมดลูก ปลูกไม่ยาก

ว่านชักมดลูก ปลูกไม่ยาก

ว่านชักมดลูกเป็นสมุนไพรที่มีการใช้มาอย่างยาวนานในอดีตแล้ว ซึ่งในอดีตนั้น คนไทยจะปลูกว่านชักมดลูกกันแค่ในรั้วบ้าน และปลูกแค่พอที่จะใช้เป็นยาสมุนไพรในครัวเรือนเท่านั้นไม่ได้มีการนำไปจำหน่ายหรือนำไปส่งออกไปยังต่างประเทศเหมือนในปัจจุบันนี้แต่อย่างใด จึงทำให้แต่ก่อนนี้ยังไม่มีผู้นิยมนำว่านชักมดลูกไปปลูกเพื่อการพาณิชย์แต่อย่างใด แต่ในปัจจุบันเมื่อเริ่มมีการใช้สมุนไพรว่านชักมดลูกกันมากขึ้น จึงทำให้เกิดกระแสการปลูกว่านชักมดลูกเพื่อนำมาจำหน่ายทั้งจำหน่วยแก่ลูกค้ารายย่อยและส่งเข้าโรงงาน จนถึงขั้นที่ว่าเกษตรกรที่ทำการเกษตรในพืชชนิดอื่นต้องหันมาปลูกว่านชักมดลูกเป็นพืชหลักเลยทีเดียว โดยในเมืองไทยนอกจากเกษตรกรจะหันมาปลูกว่านชักมดลูกแล้ว ยังมีการปลูกสมุนไพรชนิดอื่นเป็นอาชีพหลักอีกหลายชนิด เช่น กระชายดำ ขมิ้นชัน ไพลฯลฯ ซึ่งในการปลูกสมุนไพรเหล่านี้ก็สามารถทำรายได้ให้แก่เกษตรกรได้เป็นอย่างดี (ซึ่งอาจจะดีกว่าพืชหลักที่ปลูกในอดีตด้วยซ้ำ) ในตอนนี้เราจึงจะมาดูว่าวิธีการปลูกว่านชักมดลูกให้ได้ผลผลิตที่ดีนั้น ต้องทำอย่างไรบ้าง โดยว่านชักมดลูกนั้นสามารถปลูกได้โดยใช้เหง้าแขนงและส่วนหัว (ที่กลมๆใหญ่ๆ) อีกทั้งยังสามารถเจริญเติบโตได้ดีในดินร่วน หรือดินร่วนปนทราย และทนแล้งได้ดี ส่วนช่วงเวลาที่ควรปลูกนั้น ควรเป็นช่วงก่อนฤดูฝน เพราะเมื่อถึงฤดูฝนแล้วต้นของว่านชักมดลูกจะได้เติบโตตามฤดูกาลและสามารถสะสมสารอาหาร รวมถึงทำให้มีสารออกฤทธิ์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น มาถึงในขั้นตอนการเตรียมแปลงปลูก โดยก่อนปลูกต้องกำจัดวัชพืชต่างๆเสร็จแล้ว ไถพรวนดินและตากดินทิ้งไว้ 5 – 7 วัน หลังจากนั้น 2 – 3 วันให้ใส่ปุ๋ยคอกผสมกับขี้เถ้าแกลบอีก 1 ตันต่อไร่แล้วไถกลบอีกรอบ ขั้นตอนการปลูกนั้นก่อนปลูกต้องกำจัดวัชพืชอีกครั้งก่อนปลูก 1 – 2 วันสำหรับการปลูกใช้เหง้าหรือแขนงว่านชักมดลูกที่มีตาสำหรับแทงยอด(จะเป็นต้นต่อไป) หักเป็นส่วนๆใส่หลุม แล้วกลบทับ ระยะการปลูกระหว่างหลุมและระหว่างแถว ประมาณ 15 – 20 เซนติเมตร เมื่อปลูกแล้วหากเป็นช่วงฝนตกอย่างสม่ำเสมอในฤดูฝนก็ไม่ต้องให้น้ำ ส่วนการให้ปุ๋ยให้ใส่ปุ๋ยคอกร่วมกับปุ๋ยสูตร 15-15-15 ในระยะเริ่มปลูก และใช้ปุ๋ยคอกร่วมกับปุ๋ยสูตร 12-12-24 ในระยะที่ต้นโตเต็มทีในเดือน กันยายน – ตุลาคม ในการเก็บผลผลิตนั้น ต้องเก็บในช่วงฤดูหนาวถึงฤดูแล้งโดยสังเกตได้จากหากว่านชักมดลูกมีใบเหี่ยวแห้งหมดแล้วก็สามารถเก็บเกี่ยวได้ เพราะช่วงนี้ว่านชักมดลูกสะสมสารอาหารไว้ในหัวและเหง้าได้เต็มที่แล้วจึงเหมาะสมกับการเก็บเกี่ยว อีกทั้งหากเก็บเกี่ยวไปแล้วในเหง้าและหัวของว่านชักมดลูกจะมีสารออกฤทธิ์ที่มีประสิทธิภาพอย่างเต็มที่อีกด้วย

 

 

ว่านชักมดลูก กวาวเครือแดง แปะก๊วย