โคคลาน ประโยชน์ดีๆ สรรพคุณเด่นๆ และข้อมูลงานวิจัย
โคคลาน งานวิจัยและสรรพคุณ 14 ข้อ
ชื่อสมุนไพร โคคลาน
ชื่ออื่นๆ/ชื่อท้องถิ่น ว่านนางล้อม, เครือแม่น้ำนอง (ภาคเหนือ), หวานดิน (ภาคกลาง), ลุมปรี, เถาขะโนม (ภาคตะวันออก), วาลำลงพนม (ปราจีนบุรี, กัมพูชา), กูเราะ, เปรียะ (นราธิวาส, มาเลเซีย), เถาวัลย์ทอง (ประจวบคีรีขันธ์), เถาพนม (ชลบุรี), ลุ่มปรี (ตรัง)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Anamirta cocculus (L.) Wight & Arn.
ชื่อสามัญ Fish-berry, Indian berry
วงศ์ MENISPERMACEAE
ถิ่นกำเนิดโคคลาน
โคคลานเป็นพรรณพืชที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทยรวมถึงบางส่วนในประเทศกัมพูชา โดยในการค้นพบครั้งแรกพบในป่าบริเวณแนวชาวแดน ไทย-กัมพูชา ยาวไปถึงในดินแดนของประเทศกัมพูชาแล้วมีการแพร่กระจายพันธุ์ออกไปในพื้นที่ต่างๆ ในปัจจุบันสามารถพบโคคลาน ได้เกือบทั่วทุกภาคของประเทศไทย แต่ส่วนมากจะพบตามชายป่าของภาคตะวันออกส่วนในต่างประเทศพบที่อินเดีย ศรีลังกา พม่า เวียดนาม มาเลเซีย ถึงนิวกินี
ประโยชน์และสรรพคุณโคคลาน
- แก้ปวดปวดหลัง
- แก้ปวดเอว
- แก้ปวดกล้ามเนื้อ
- แก้ปวดเมื่อยตามร่างกาย
- แก้เส้นตึง
- ช่วยบำรุงโลหิต
- ช่วยบำรุงกำลัง
- แก้กษัย
- แก้ไตพิการ
- ช่วยขับปัสสาวะ
- แก้อาการคัน
- รักษาโรคผิวหนังต่างๆ
- ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ
- ช่วยให้เจริญอาหาร
รูปแบบและขนาดวิธีใช้
เถา และรากใช้ต้มน้ำแล้วใช้ดื่ม แก้ปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดกระดูก ปวดข้อ แก้เส้นเอ็นอักเสบตึงปวด บำรุงโลหิต บำรุงกำลัง แก้กษัย ขับปัสสาวะ อีกตำรับหนึ่งใช้โคคลาน 2 ส่วน ทองพันชั่ง มะตูม โด่ไม่รู้ล้ม อย่างละ 1 ส่วน ใส่น้ำให้ท่วมยาแล้ว นำไปต้มเดือด รินดื่มก่อนอาหารครั้งละ 1 แก้ว วันละ 3 เวลา โดยให้อุ่นยากินเรื่อยๆ จนยาจืดจึงเปลี่ยนยาหม้อใหม่ หรือ จะนำเครื่องยาแห้งตำรับนี้มาบดผงใส่แคปซูลขนาด 500 มิลลิกรัม รับประทานก่อนอาหารครั้งละ 2 แคปซูล วันละ 3 เวลาก็ได้
นอกจากนี้ตามภูมิปัญญาชาวบ้านยังมีการนำเถาโคคลาน ต้นโด่ไม่รู้ล้ม ต้น หรือ ใบทองพันชั่ง มาดองกับเหล้าขาว ใช้ดื่มวันละ 1-2 เป๊ก เพื่อแก้กษัย แก้ปวดเมื่อยกระดูก และเส้นเอ็น บำรุงโลหิต บำรุงกำลัง ช่วยให้เจริญอาหาร อีกด้วย
ลักษณะทั่วไปของโคคลาน
โคคลาน จัดเป็นไม้เถาขนาดใหญ่ เถายาวทอดเลื้อยไปตามพื้นดิน หรือ ทอดเลื้อยไปพันตามต้นไม้อื่นๆ เถาแก่มีขนาดใหญ่สีน้ำตาลอ่อน เนื้อไม้แข็ง ส่วนเถาอ่อน เปลือกสีครั่ง มีหนาม ใบเป็นใบเดี่ยวรูปไข่ หรือ รูปหัวใจ ยาว 10-25 ซม. กว้าง 8-20 ซม. ผิวใบเกลี้ยงสีเขียวเข้ม ตรงโคนมีต่อมขมเล็กๆ อยู่ ดอกออกเป็นช่อโดยมีทั้งดอกเพศผู้ และเพศเมีย โดยดอกจะออกตามซอกใบ แต่ละช่อดอกจะมีความยาว 15-40 ซม. และมีดอกย่อยออกด้านข้างของช่อ ผลออกเป็นช่อ เป็นผลสดตอนอ่อนมีสีขาว เมื่อผลแก่จะมีสีแดง หรือ สีม่วง ลักษณะผลเป็นทรงกลม ขนาดเล็กผิวเกลี้ยง มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 8-10 มิลลิเมตร เมล็ดมี 1 เมล็ดใน 1 ผล เป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว มีรสขม อยู่ในผนังผลขั้นในที่มีรูปร่างคล้ายไต
การขยายพันธุ์โคคลาน
โคคลาน สามารถขยายพันธุ์ได้โดยการใช้เมล็ด และจัดเป็นพืชป่าที่ยังไม่นิยมนำมาปลูกไว้ในบ้าน หรือ ปลูกในเชิงพาณิชย์ ดังนั้นในการขยายพันธุ์ ส่วนมากจึงเป็นการขยายพันธุ์ตามธรรมชาติ มากกว่าการขยายพันธุ์โดยมนุษย์
องค์ประกอบทางเคมี
จากการศึกษาวิจัยองค์ประกอบทางเคมี ของโคคลาน พบว่าสารต่างๆ หลายชนิด เช่น Picrotin, alkaloid Menispermine, Picrotoxinin, Cocculin, Stearophanic acid และ Paramenispermine
ที่มา : Wikipedia
การศึกษาทางเภสัชวิทยาของโคคลาน
จากการศึกษาวิจัยทางเภสัชพบว่าเมล็ดของโคคลาน มีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง และกระตุ้นศูนย์ควบคุมการหายใจ, รวมถึงยังช่วยกระตุ้นสมอง ส่วนสารสกัดจากส่วนต่างๆ ของโคคลาน มีฤทธิ์ต้านอักเสบ บรรเทาปวด ต้านอนุมูลอิสระ เป็นต้น
การศึกษาทางพิษวิทยาของโคคลาน
สำหรับการศึกษาทางพิษวิทยานั้นยังไม่พบข้อมูลความเป็นพิษของโคคลาน แต่มีรายงานการศึกษาในสัตว์ทดลองบางฉบับพบว่าเมื่อใช้ในขนาดสูงมีผลมีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง และกระตุ้นศูนย์ควบคุมการหายใจ รวมถึงยังช่วยกระตุ้นสมอง ทำให้สัตว์ทดลองอาเจียน ท้องเสีย ควบคุมการเคลื่อนไหวไม่ได้ และมีอาการชัก เป็นต้น
ข้อแนะนำและข้อควรระวัง
สำหรับการใช้โคคลานเป็นสมุนไพรสำหรับรักษาโรค ถึงแม้ว่ายังไม่มีงานวิจัยที่ระบุว่าเป็นพิษแต่ในงานวิจัยบางฉบับก็ได้รายงานว่ามีอาการข้างเคียงในสัตว์ทดลอง ดังนั้นการใช้โคคลาน ควรระมัดระวังในการใช้เช่นเดียวกันกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ คือ ควรใช้ตามปริมาณ และขนาดตามที่ระบุไว้ในตำรับนำรายาต่างๆ ไม่ควรใช้มากเกินกว่าที่ระบุ หรือ ใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานานจนเกินไป เพราะอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ สำหรับเด็ก สตรีมีครรภ์ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง รวมถึงผู้ที่ต้องรับประทานยาต่อเนื่องเป็นประจำ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้เสมอ
เอกสารอ้างอิง โคคลาน
- ภญ.กฤติยา ไชยนอก. สมุนไพรไทยกับภาวะเสื่อมสมรรถภาพ. สำนักงานข้อมูลสมุนไพร.คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.
- ธวัชชัย วงศ์ประเสริฐ. พืชที่ให้สารออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท (Psychotropic Plants). กลุ่มงานพฤกษศาสตร์ป่าไม้. สำนักงานหอพรรณไม้. กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม.
- วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม.โคคลาน. พจนานุกรมสมุนไพรไทยฉบับพิมพ์ครั้งที่ 6. กรุงเทพฯ. สำนักพิมพ์รวมสาส์น. 2542. 880 หน้า
- สมุนไพร แก้ปวดเมื่อย. กระดานถาม-ตอบ.สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล. (ออนไลน์) เข้าถึงได้จาก http://www.medplant.mahidol.ac.th/user/reply.asp?id=6922