เห็ดหลินจือ “ราชาแห่งสมุนไพรจีน”เพาะอย่างไร...ไปดูกัน

เห็ดหลินจือ “ราชาแห่งสมุนไพรจีน”เพาะอย่างไร...ไปดูกัน            

เป็นธรรมดาว่าหากมีสมุนไพรใดที่มีสรรพคุณดีๆและเป็นที่ต้องการของตลาดโลกแล้วนั้น ย่อมมีการเสาะแสวงหาวัตถุดิบ(สมุนไพร)ตัวนั้นมาเพื่อทำการแปรรูปเพื่อค้าขายในเชิงพาณิชย์ ไม่ว่าจะเป็นสมุนไพรจีน สมุนไพรไทย หรือสมุนไพรทั่วทุกมุมโลก เช่น สารสกัดจากเปลือกสนมาริไทน์  ชาเขียวหรือแม้กระทั่ง สารสกัดจากถั่วขาว ฯลฯ ซึ่งต้องยอมรับว่าสมุนไพรเหล่านี้ ณ.ปัจจุบันนี้เป็นที่นิยมของตลาดผู้บริโภคเป็นอย่างมาก ซึ่งอาจทำให้สมุนไพรเหล่านี้ตามแหล่งธรรมชาตินั้นหายากตามกระแสความนิยม ซึ่งไม่สอดคล้องตามหลัก อุปสงค์ อุปทาน ดังนั้นเพื่อเป็นการแก้ปัญหาที่จะเกิดขึ้นจึงจำเป็นต้องมีการเพาะหรือขยายพันธุ์ สมุนไพรในเชิงพาณิชย์ขึ้นเพื่อรองรับตลาดวัตถุดิบ สมุนไพรที่จะนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพต่างๆ เห็ดหลินจือก็เช่นกัน เพราะเห็ดหลินจือก็เป็นสมุนไพรตัวท๊อปอีกตัวหนึ่งที่เป็นที่นิยมในตลาดสมุนไพรโลก เพราะสรรพคุณและหลักฐานอ้างอิงทางวิทยาศาสตร์ชี้ให้เห็นว่า เห็ดหลินจือนั้นมีคุณประโยชน์กับร่างกายมนุษย์ทั้งในด้านการเสริมสร้างและบำรุงสุขภาพให้ดีขึ้น หรือการบำบัดรักษาโรคต่างๆ เพราะเหตุนี้จึงมีการเพาะพันธุ์เห็ดหลินจือไปในทั่วทุกมุมโลก  สำหรับในประเทศไทยนั้นเริ่มทำการทดลองเพาะพันธุ์เห็ดหลินจือในเชิงพาณิชย์มากกว่า 30 ปีแล้ว ดังนั้นในที่นี้จึงขอนำเสนอวิธีเพาะเห็ดหลินจือจากการรวบรวมข้อมูลที่ต่างๆ มาเล่าสู่ทุกท่านกันครับ สำหรับการเพาะเห็ดหลินจือ ในถุงขี้เลื่อยนั้น มีวิธีการดังนี้ นำขี้เลื่อยผสมกับรำละเอียด 5% ใส่น้ำตาลและยิปซัม อย่างละ 1% (เพื่อทำให้โครงสร้างเห็ดแข็งแรง) เติมดีเกลือ 0.2% เพื่อกระตุ้นเส้นใยและใส่น้ำ นำทั้งหมดมาคลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วนำมาอัดใส่ถุงพลาสติกให้แน่นใส่คอขวดปิดจุกสำลี เสร็จแล้วนำไปนึ่งที่อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียสใช้เวลา 3 ชั่วโมง แล้วจึงนำมาปลูกเชื้อ(ใช้หัวเชื้อจากเมล็ดข้าวฟ่าง)โดยเทลงไปในถุง 40-50 เมล็ด(หัวเชื้อ 1 ขวดเพาะได้ประมาณ 50 ถุง) แล้วจึงนำไปบ่มในอุณหภูมิ ไม่เกิน 28 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 50 วัน เส้นใยจะเจริญเติบโตเต็มถุงแล้วจึงนำมาเข้าโรงเรือนที่มุงด้วยหญ้าคากำหนดอุณหภูมิในโรงเรือน 25-32 องศาเซลเซียส และเปิดกระดาษตรงที่คุมก้อนเชื้อออก ประมาณ 1 อาทิตย์ ตรงกลางดอกเห็ดจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแดง ช่วงนี้ครีบของดอกจะเริ่มขยายเรื่อยๆ จนถึง 20 - 30 วัน ดอกจะเป็นสีน้ำตาลแดงทั้งดอกพร้อมกันจะขยายเต็มที่และจะมีสปอร์ดอกออกมา ซึ่งจะแสดงถึงความพร้อมในการเก็บดอกเห็ดหลินจือเพื่อนำไปแปรรูปได้ สำหรับวิธีเก็บเห็ดหลินจือนั้นให้ดึงดอกเห็ดที่จัดแล้วออกจากถุงเห็ดแล้วตัดขาของเห็ดทิ้งนำดอกเห็ดหลินจือที่ได้ไปหั่นเป็นชิ้นแล้วนำไปอบแห้งที่อุณหภูมิเริ่มต้น 50 องศาเซลเซียสโดยเพิ่มอุณหภูมิครั้งละ 3-5 องศาเซลเซียส และเพิ่มทุกๆ 2 ชั่วโมง จนอุณหภูมิถึง 70 องศาเซลเซียส จึงนำออกมาพร้อมสำหรับนำเห็ดหลินจือที่ได้ไปแปรรูปหรือขายเป็นเห็ดอบแห้งส่วนสนนราคาเห็ดหลินจืออบแห้งอยู่ที่กิโลกรัมละ 2000-2500 บาทเลยทีเดียว

 

 

เห็ดหลินจือ ถั่งเช่า แปะก๊วย