กวาวเครือขาวกับคุณประโยชน์และข้อบ่งใช้ที่ควรทราบ

กวาวเครือขาวกับคุณประโยชน์และข้อบ่งใช้ที่ควรทราบ

เมื่อขึ้นชื่อว่าสมุนไพรแล้ว ล้วนต้องมีสรรพคุณต่างๆตามสารออกฤทธิ์ที่มีในตัวสมุนไพรนั้นๆ ซึ่งสรรพคุณต่างๆนี้มนุษย์เราก็จะเลือกสมุนไพรมาใช้ตามอาการป่วยของตนที่เป็นอยู่ เพื่อที่จะได้ใช้สมุนไพรรักษาให้ตรงตามอาการและไม่เกิดพิษหรือภาวะแทรกซ้อนใดๆกวาวเครือขาวก็เช่นกัน ในทีนี่ของนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับสรรพคุณของกวาวเครือขาว สมุนไพรยอดฮิตของสาวๆ (ทั้งสาวเล็กและสาวใหญ่) ซึ่งในตอนที่แล้ว เรารู้แล้วว่าในหัวกวาวเครือขาวนั้นมีสารออกฤทธิ์ตัวไหนบ้าง (กวาวเครือขาวมีสารออกฤทธิ์อย่าน้อย 19 ชนิด) ดังนั้นเราจึงควรรู้ว่าสรรพคุณของกวาวเครือขาวนั้นมีอะไรบ้าง โดยตำรายาแผนโบราณกล่าวไว้ว่ากวาวเครือขาวเป็นสมุนไพรที่ให้รสเย็น เบื่อเมา , บำรุงสุขภาพ เป็นยาอายุวัฒนะแก้ปวดเมื่อยตามร่างกาย หากทาหรือรับประทานจะทำให้เต้านมขยายใหญ่ขึ้น เป็นยาปรับรอบเดือน บำรุงอวัยวะสืบพันธุ์ให้มีเลือดมาคั่งมากขึ้น ทำให้ผิวหนังเต่งตึง แก้พิษงู ส่วนในตำรายาพม่านั้นกล่าวว่า กวาวเครือขาวใช้หัวเป็นยาอายุวัฒนะใช้ได้ทั้งชายและหญิง แต่คนหนุ่มคนสาวไม่ควรรับประทาน ส่วนในการแพทย์แผนปัจจุบันนั้นระบุว่า กวาวเครือขาวกำลังอยู่ในช่วงการวิจัยถึงฤทธิ์ที่มีต่อสตรี ในเรื่องต่างๆ เช่น ช่วยลดอาการต่างๆ ของสตรีหมดประจำเดือน , ลดภาวะกระดูกพรุน , ต้านอนุมูลอิสระ , ช่วยลดอาการช่องคลอดแห้ง ส่วนที่มีการใช้กันในปัจจุบันนั้น สถาบันการแพทย์แผนไทย กระทรวงสาธารณสุขระบุไว้ว่า ให้ใช้กวาวเครือขาวเป็นส่วนประกอบในตำรายาเพื่อบำรุงร่างกาย โดยมีส่วนประกอบของผงกวาวเครือขาวไม่เกิน 2 มิลลิกรัม ต่อกิโลกรัมต่อวัน หรือรับประทานได้วันละไม่เกิน 100 มิลลิกรัมต่อวัน ส่วนในปัจจุบันนั้น เราจะเห็นได้ว่า กวาวเครือขาวจะถูกนำมาเป็นครีมบำรุงและขยายขนาดหน้าอกของสตรีหลายแบรนด์หลายยี่ห้อ  ซึ่งเป็นจุดแข็งของกวาวเครือขาวในปัจจุบันเพราะสามารถแสดงประสิทธิภาพได้รวดเร็ว เห็นผลไว หากใช้อย่างสม่ำเสมอ แต่กวาวเครือขาวก็มีข้อบ่งใช้ที่ต้องปฏิบัติตาม คือ 1.ไม่ควรใช้ในหญิงวัยเจริญพันธุ์ 2.ผู้ป่วยมะเร็งมดลูกและมะเร็งเต้านมหรือเนื้องอกที่ไวต่อฮอร์โมนเอสโตเจน ไม่ควรใช้เพราะในกวาวเครือขาวมีสารออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนนี้อยู่ 3.ไม่ควรรับประทานเกินขนาดที่กระทรวงสาธารณสุขแนะนำ ในปัจจุบันนี้กวาวเครือขาวได้ถูกจัดให้เป็นสมุนไพรควบคุมเช่นเดียวกับ กวาวเครือแดงและกวาวเครือดำเพราะเป็นสมุนไพรที่เสี่ยงจะสูญพันธุ์ และมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจ ส่วนสมุนไพรตัวอื่นที่เสี่ยงจะสูญพันธุ์เช่นกัน และจำถูกจัดเป็นสมุนไพรควบคุมในเร็ววันนี้ มีอีก 22 ชนิด อาทิเช่น สะค้าน เถาเอ็นอ่อน ปลาไหลเผือก ฯลฯ

            ดังนั้นสมุนไพรไทยเหล่านี้เราจึงควรปลูกทดแทนและอนุรักษ์ไว้ให้ได้ใช้ต่อไปในระยะยาว ซึ่งเชื่อว่าหากมีการศึกษาวิจัยเพิ่มเติมในมนุษย์แล้ว กวาวเครือขาวจะเป็นสมุนไพรที่ให้คุณประโยชน์แก่มนุษย์อย่างมหาศาลแน่นอน

 

 

สมุนไพรกวาวเครือขาว เจียวกู่หลาน ถั่งเช่า